วันที่ 26 ก.ค.67 ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว)
โดยศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348,659,232.74 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงิน จำนวน 2,199,091,830.27 บาท และสำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406,418,719.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงิน จำนวน 8,786,765,195.47 บาท ตามอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ซึ่งประกาศโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับเงินกู้สกุลเงินบาทบวกร้อยละ 1 ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวแนวทางดำเนินการเรื่องนี้ว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น ให้กทม.จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 แยกเป็นยอดหนี้เงินต้น จำนวน 2,199,091,830.27 บาท ดอกเบี้ย 149,567,402.47 บาท รวมเป็นเงิน 2,348,659,232.74 บาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 แยกเป็นยอดหนี้จำนวน 8,786,765,195.47 บาท ดอกเบี้ยจำนวน 619,653,523.89 บาท รวม จำนวน 9,406,418,719.36 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจ่ายหนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โดยเฉพาะการตรวจสอบเงินในคลัง การกำหนดวันจ่าย เพราะมีดอกเบี้ยประมาณวันละ 2 ล้านบาท โดยจะต้องเสนอเรื่องเข้าสภากทม.เพื่ออนุมัติเงินสะสมจ่ายขาดเพื่อจ่ายหนี้ดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการตามขั้นตอนพร้อมจ่ายเงินได้ภายใน 140 วัน นับจากนี้ไป
สำหรับคดีดังกล่าว ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า กรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.006/55 ลว. 3 พฤษภาคม 2555 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตามสัญญาเลขที่ กธ.ส.024/59 ลว. 1 สิงหาคม 2559 กรณีผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยผู้พ้องคดี ได้มีหนังสือ ลว. 18 กันยายน 2563 และหนังสือ ลว. 15 มกราคม 2564 ทวงถามไปยังผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงนำคดีมาฟ้อง