วันที่ 26 ก.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...

ทั้ง อุ๊งอิ๊ง และ เฉลิม ต่างก็หวงเก้าอี้ ส.ส.

หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวท้าทายให้พรรคเพื่อไทยขับออกจากพรรคไวๆ รวมทั้งได้ท้าดีเบตกับนายทักษิณ ชินวัตร หวังจะได้รับเสียงตอบรับ จากฝ่ายของนายทักษิณกลับมา

ในที่สุดก็ได้รับการเปิดเผยจากคุณอุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้ส่งข้อความ ลงในไลน์กลุ่มของพรรค แจ้งความประสงค์จะย้ายพรรคทำให้คุณอุ๊งอิ๊งได้ลบชื่อร.ต.อ.เฉลิมออกจากไลน์กลุ่มไป และได้ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า "ขับออกจากรุ๊ปอย่างเดียวนะคะ ไม่มีนโยบายขับออกจากพรรคค่ะ"

ปัญหาความขัดแย้งระหว่างร.ต.อ.เฉลิมกับนายทักษิณ ที่ออกมาท้าทายให้ขับออกจากพรรคนั้น ก็เพราะร.ต.อ.เฉลิมหวังจะออกจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยมีตำแหน่ง ส.ส.ติดตัวไปด้วย ถ้าหากตอนนนี้ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็คงจะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปพร้อมกับนายวัน อยู่บำรุงแล้ว

ในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็เช่นเดียวกัน ถ้าหาก ร.ต.อ.เฉลิมเป็นแค่สมาชิกธรรมดาไม่ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็คงจะขับออกจากพรรคไปแล้ว แต่ตอนนี้ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ถ้าขับออกจากสมาชิกพรรคไป ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยขาดที่นั่งส.ส.ไป 1 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องคิดหนัก ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการให้ร.ต.อ.เฉลิมเป็นส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ในพรรค จะก่อกวนสร้างความเสียหายให้กับพรรคมากน้อยแค่ไหน

การที่พรรคการเมืองใดจะเสียส.ส.ไป 1 คน โดยไม่จำเป็น เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะกว่าจะได้ส.ส.มาสักคน แต่ละพรรคต้องใช้เงินมากถึง 50-100ล้านบาทก็มี จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะมีพรรคการเมืองใด จะยอมสูญเสียที่นั่งส.ส.ไปอย่างง่ายๆ

สรุปได้ว่าปัญหาของพรรคเพื่อไทย ระหว่างร.ต.อ.เฉลิมกับคุณอุ๊งอิ๊ง ที่ตอแย ท้าทายกันไปมา เพราะเกี่ยงกันที่ตำแหน่ง ส.ส. เท่านั้น