ในความปกติที่ไม่ปกติ จากก๊วนกอล์ฟที่เขาใหญ่ โชว์ภาพความแนบแน่นของ “คีย์แมนสำคัญ” ระหว่าง “แดง+น้ำเงิน+ทุน” ในซีนที่มีทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีแห่งเพื่อไทย “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และบิ๊กพลังงาน “เสี่ยกลาง”สารัชถ์ รัตนาวะดี
ท่ามกลางสถานการณ์ ที่มีการขบเหลี่ยมงัดข้อปีนเกลียวกันมาตลอด นับแต่เพิ่งตั้งไข่รัฐบาลเศรษฐา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ปลดล็อกกัญชา” ที่เป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย แต่ “นายกฯนิด”เศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี สั่งการ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุขดึงกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดอีกครั้ง ส่งผลให้ “เสี่ยหนู”ประกาศกร้าวว่าจะโหวตสวน ในบอร์ดยาเสพติด
ไม่ว่าจะเป็นศึกเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่ชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ชนะ “บิ๊กแจ๊ส”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อย่างเฉียดฉิว ซึ่ง “บิ๊กแจ๊ส”ก็เคยส่งทีมงานไปลงสส.ในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย
และในการเลือกสว.ล่าสุด ที่สว.สายสีน้ำเงินพรึบยึดสภา แต่ “ตัวเต็ง”อย่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่สามรถฝ่าด่านเข้าสภาได้
ขณะที่การปรับครม.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนแนบแน่น กลุ่มทุนพลังงานมีอันต้องลาออกจากตำแหน่งไป ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากบิ๊กพลังงาน และส่งผลกระทบถึงการบริหารจัดการทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบาง
ภาพก๊วนกอล์ฟที่เขาใหญ่ จึงเป็นเหมือน “สัญญาณ” แห่งการ “สงบศึกใน”!!
ภายใต้ความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน ภาพก๊วนกอล์ฟที่เขาใหญ่ ต่อเนื่องมาถึงผลการโหวตเลือกประมุขสภาสูง เมื่อผลการลงคะแนนนั้น ไม่พลิกโผที่ออกมาก่อนหน้านี้ที่ “ค่ายสีน้ำเงินกินรวบ” โดยมงคล สุระสัจจะ รั้งเก้าอี้ประธานวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงถึง 159 คะแนน “บิ๊กเกรียง”พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ได้ 150 คะแนน และบุญส่ง น้อยโสภณ เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ได้ คะแนนท่วมท้น167 คะแนน
สะท้อนความแข็งแกร่งของการบริหารจัดการของ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์”
และตามมาด้วยฉากสำคัญ ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี “นายกฯนิด”เล่นบทท้าว
มาลีวราช เรียก “เสี่ยหนู” กับ “สมศักดิ์” เข้าหารือประเด็นความขัดแย้งเรื่องกัญชาเป็นการด่วน ชนิดที่เรียกได้ว่าพลิกความคาดหมาย ยุติความขัดแย้งภายในโดยให้ออกพระราชบัญญัติมาควบคุม ที่แน่นอนว่าต่างก็รู้กันดีว่า ลำพัง “นายกฯนิด” จะมาขวางกัญชาเพื่ออะไร หากไม่มีใบสั่ง
นั่นจึงทำให้มีการมองกันว่า เป็น “พลานุภาพ”ของก๊วนกอล์ฟที่เขาใหญ่ บันดาลให้มีการประนีประนอมเรื่อง “กัญชา”
เทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อ่านว่า เบื้องหลังที่พรรคภูมิใจไทย เอาชนะปัญหาข้อขัดแย้งเรื่องกัญชาได้ น่าจะมาจากการที่นายอนุทินได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่เขาใหญ่ ในวันหยุดยาวที่ผ่านมา น่าจะมีการรับปากว่าจะยกเลิกการนำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติด และได้ส่งสัญญาณไปยังนายเศรษฐาเพื่อหาทางลง และทางพรรคภูมิใจไทย คงส่งสัญญาณไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จนประกาศสลายการชุมนุมไปในที่สุด
“วันนี้นายเศรษฐา จึงรับลูกจากนายทักษิณ รีบเคลียร์ปัญหา โดยการเชิญนายสมศักดิ์และนายอนุทินมาพูดคุยกัน จนทำให้ปัญหากัญชาสู่ยาเสพติดเป็นอันพับไป และเป็นความพ่ายแพ้และล้มเหลวในการผลักดันนโยบายของนายเศรษฐาอีกนโยบายหนึ่ง
จากปรากฎการณ์ การแก้ปัญหานำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดนั้น จะเห็นได้ว่านายเศรษฐาไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เพราะนโยบายที่ประกาศไว้ ก็ต้องกลับคำพูด ถอยหลังตามคำสั่งของผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล เป็นการยืนยันคำตอบว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง และเป็นเจ้าของรัฐบาลชุดนี้ที่แท้จริง”เทพไท ระบุ
ขณะที่ “เสี่ยหนู” ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการได้เจอกับอดีตนายกฯทักษิณ หรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยว ไม่เคยคุยเรื่องนี้กัน พร้อมกับย้ำว่า เรื่องนี้เป็นบัญชาของนายกฯ
แต่กระนั้น พลานุภาพของ “ก๊วนกอล์ฟเขาใหญ่” นั้น ย่อมไม่เพียงสยบศึกใน สลายขัดแย้งปมกัญชาเท่านั้น หากแต่เชื่อกันว่า เป็นการ “กระชับดีล” ข้ามช็อตไปถึง ระเบิดเวลาทางการเมือง 3 ช็อตต่อเนื่อง ที่จะมีส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
หนึ่งคือ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติและแถลงผลคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล กรณีมีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จากการใช้การแก้ไขมาตรา 112 รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
หนึ่งคือ ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและแถลงผลคำวินิจฉัยคดีที่40 สว.ยื่นถอดถอน “นายกฯนิด”ออกจากตำแหน่ง กรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติ หรือ ลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
และอีกหนึ่งคือ “ทักษิณ”จะพ้นโทษ ได้รับการปล่อยตัวในเดือนนี้ ที่แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเปิดเผยและเป็นอิสระมากขึ้น
ท่ามกลางการอ่านหมากการเมือง และข่าวลือข่าวปล่อยออกมาเขย่า ดังนั้นหากเกิดอุบัติเหตุกับ “นายกฯนิด” ก็วางหมากบล็อกภูมิใจไทยไม่ให้ผนึกกับบ้านป่าพลังประชารัฐ ชิงแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะหากพรรคก้าวไกล ต้องถูกยุบพรรคและถูกช้อนซื้อสส.เขามาเติม 2 พรรค
ดังนั้น 3 ปัจจัยที่กล่าวมานั้น เชื่อกันว่า “บิ๊กดีล” ที่เขาใหญ่เตรียมแผนรับมือกับปัจจัยที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณียุบ -ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ที่วันนี้สัญญาณจากเขาใหญ่ ผนึก “แดง+น้ำเงิน+ทุน” ยังเป็นปึกแผ่น แกร่งทั่วแผ่น บนพื้นฐานของการประสานประโยชน์