ตามประกาศของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 24 – 31 กรกฎาคม 2567 จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือบริเวณประเทศเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณตอนใต้ของประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะดังกล่าว จะส่งผลให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ รวมถึงมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของภาคเหนือ รวมไปถึงภาคตะวันตก นั้น

ล่าสุด วันที่ 24 ก.ค.67 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ได้รายงานถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่า ที่สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ในอัตรา 1,200 -1,300 ลบ.ม. / วินาที ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่า  

กรมชลประทาน ได้ทำการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในอัตราที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 800 – 1,100 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.80 – 1.10 เมตร แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำ พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ตลอดจนบูรณาการร่วมกับจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบในระยะต่อไป