"จุลพันธ์" เร่งเครื่องดิจิทัลวอลเล็ต หวังเริ่มใช้ก่อน ธ.ค.67 ปั๊มจีดีพีปี 68 โตเพิ่ม 1.2-1.8%

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังเปิดเผยว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตจะเริ่มใช้จ่ายได้จริงภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยรัฐบาลจะพยายามเร่งรัดโครงการให้มีความรวดเร็ว ซึ่งมีโอกาสจะเริ่มใช้ได้เร็วกว่าเดือน ธ.ค.67 โครงการดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปี 2567 แต่อาจไม่เต็มที่มากนัก เนื่องจากโครงการออกมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี การหมุนเวียนของเศรษฐกิจจากเม็ดเงินในโครงการอาจยังไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ผลที่เห็นได้จริงๆจะเกิดขึ้นในปี 2568 ซึ่งกระทรวงการคลัง เคยประเมินตัวเลขไว้ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจราว 1.2-1.8%

ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาการจัดการแหล่งเงินงบประมาณที่นำมาใช้ในโครงการดังกล่าว ซึ่งทั้งกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการได้ในกรอบงบประมาณที่มีอยู่ โดยไม่กระทบภารกิจอื่นของรัฐ ซึ่งทำได้ทั้งการออก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม การโอนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ตลอดจนการบริหารการคลังและการบริหารจัดการงบประมาณ

ส่วนการใช้งบกลางปี ที่จะสิ้นสุด ก.ย.67 นั้น กรณีมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายข้ามปีงบประมาณก็สามารถดำเนินการได้ ถือเป็นเรื่องปกติ หากได้มีการทำสัญญาผูกพันไว้แล้วก่อนสิ้นปีงบประมาณ เช่น ในกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อประชาชนกดขอรับสิทธิ์ และรัฐยืนยัน ถือว่าเป็นการผูกพันงบประมาณแล้ว ส่วนระบบการชำระเงินนั้น อยู่ในขั้นตอนและมีความพร้อมในวันที่จะเริ่มดำเนินการแน่นอน โดยมีความปลอดภัย และโปร่งใส มีการตรวจสอบอย่างครบถ้วน ธนาคารแห่งประเทศไทยขอเวลา 15 วันที่จะเข้ามาช่วยดู ซึ่งรัฐบาลยินดี และมีความพร้อมที่ให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า ระบบการชำระเงิน จะไม่มีข้อผิดพลาด

ขณะที่ระบบป้องกันการทุจริต นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำการป้องกันการทุจริตว่าต้องไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะเงินทุกบาทประชาชนจะเป็นผู้รับ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำคือ ตัดสิทธิคนที่เคยทำผิดในโครงการในอดีต รวมถึงระบบฐานข้อมูลเป็นระบบบล็อกเชน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการซื้อ-ขาย ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ครบถ้วน เมื่อมีการตรวจสอบพบการซื้อขายผิดประเภทจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

#ข่าววันนี้ #ดิจิทัลวอลเล็ต #แบงก์ชาติ #จีดีพี #งบประมาณ #ทุจริต