นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

จดหมายเปิดผนึก:ข้อเสนอสาธารณะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.

เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของสว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน และสวกลุ่มต่างๆทั้ง20กลุ่ม โดยทำการตรวจสอบทบทวนซ้ำใหม่ทั้งหมด แทนการตรวจสอบเพียงบางราย

ด้วยเหตุว่า ยังมีข้อสงสัยว่า สมาชิกบางรายอาจมีปัญหาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามบางประการ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพรบประกอบรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดังนี้

1)เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา98(3)เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่

:กรณีนี้ต้องตรวจสอบความเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อมวลชนใดๆของผู้สมัครทุกคนตั้งแต่วันสมัคร มิใช่วันที่ได้รับเลือกหรือวันที่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินต่อปปช เพราะเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามสำคัญของผู้สมัครตามรัฐธรรมนูญ2560 และตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร

2) เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา98(7)เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้รับโทษมายังไม่ถึง10ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือไม่

: กรณีนี้เท่าที่ทราบมีคดีที่ต้องตรวจสอบอย่างน้อย2คดี หรือมากกว่า เช่นคดีทำร้ายร่างกาย หรือจ้างวานฆ่า เป็นต้น ว่าคดีต่างๆนั้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่อย่างไร หรือเข้าข่ายต้องห้ามสมัครรับเลือกด้วยหรือไม่

3)เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (3)มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10ปี หรือไม่

:กรณีนี้เจตนารมย์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญและพรปสว ชัดเจนว่า ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า10ปี มิใช่แค่มีผู้รับรองเท่านั้น แต่กกตต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานอื่นประกอบเพื่อยืนยันประสบการณ์ดังกล่าวจริงไม่ต่ำกว่า10ปี ซึ่งอาจพบการรับรองเท็จจำนวนมากในหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มประชาสังคม กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น กลุ่มศิลปะวัฒนธรรม บันเทิง กีฬา กลุ่มสื่อมวลชน เป็นต้น

4)เป็นบุุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (5)เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก หรือไม่

:กรณีนี้มีผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองคือ เคยเป็นผู้อำนวยการพรรคการเมือง และพ้นตำแหน่งมาไม่ถึง5ปี เป็นตำแหน่งใดที่มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่

หากพบว่าเข้าข่ายลกกตักษณะต้องห้ามจริง กกตต้องเร่งตรวจสอบและเสนอศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว

5) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 77(4) หลอกลวง หรือจูงใจให้บุคลลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่1ถึง10ปี ฯลฯ

ซึ่งนักวิชาการ สื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ติดตามตรวจสอบจนได้ข้อพิจารณาหลายประการแล้ว

:กรณีนี้กกตจะดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นและส่งศาลเพื่อดำเนินคดีเมื่อใด

6)กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 62 เมื่อกกต ประกาศผลการเลือกแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า

ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น

อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้กกตยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้เพิกถอนสิทธิรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น

:กรณีนี้กกตได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ปรากฎจากสื่อตามที่แนบมานี้ด้วยหรือไม่

เพราะปรากฎข้อสงสัยจากการผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นสื่อมวลชน กลุ่ม18 ที่ได้จดการขานนับคะแนนกลุ่มดังกล่าวในรอบเลือกตรงวันที่26มิย2567 พบข้อพิรุธการจัดตั้งคะแนนblockvote อาจเข้าข่ายการกระทำการอันเป็นการทุจริตทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งกกตมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบ ตามที่ผู้สมัครกลุ่มสื่อมวลชนดังกล่าวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกตแล้ว และกกตมีรายชื่อและหมายเลขผู้สมัครกลุ่ม18 ทุกคนเรียงตามลำดับ1-146 ซึ่งสามารถตรวจสอบผลการลงคะแนนแบบเดียวกัน จากบัตรลงคะแนนblockvoteดังกล่าวได้

หากตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิดจริง ให้กกตยื่นศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป

7) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา63 หากความปรากฎว่า สมาชิกวุฒิสภาผู้ใดขาดคุณสมบัติตามมาตรา13และมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา14 ให้ กกต ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า

:กรณีนี้อาจมีผู้เข้าข่ายดังกล่าวมากกว่าxx ราย ที่กกต.ต้องเร่งตรวจสอบและเร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะกกตเคยประกาศความเชื่อมั่นต่อสังคมในการทำหน้าที่ว่า

กกตได้ทำหน้าที่ให้การเลือกครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และใช้อำนาจตามกฎหมายในการรับรองไปก่อนสอยทีหลัง

จึงเสนอมาเพื่อโปรดพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของท่านต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

สมชาย แสวงการ

อดีตสมาชิกวุฒิสภา

23 กค 2567

หมายเหตุ: หากกกต ต้องการข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มใดๆที่เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบ ยินดีให้ความร่วมมือ

#กกตมีหน้าที่ #จะสอยกี่โมง

อ้างอิงข่าว : https://www.naewna.com/politic/817959

: ‘กรพด’ ยัน ไม่เคยเข้าคุก ยินดีให้กกต.ตรวจสอ […]

แหล่งที่มา: มติชนออนไลน์

https://search.app/S1HmBbwTCMYneRwj9