“นายกฯ”ยุติศึกปมกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เรียก “อนุทิน-สมศักดิ์” เคลียร์ใจ ออกเป็น”พรบ.” ควบคุมใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น "อนุทิน" ปลื้ม"พีระพันธุ์" เห็นด้วยประเด็นกัญชาต้องฟังความรอบด้าน บอกไม่อยากถูกฟ้อง ชี้กฎหมายไม่นิ่งนักลงทุนถอยแน่

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ว่า  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ร่วมหารือพูดคุยเพื่อยุติประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด หลังจากก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความไม่สบายใจถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งในวงหารือนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าอยากให้ประเด็นดังกล่าวดำเนินการ โดยการออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อควบคุมการบังคับใช้กัญชาให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัยและเศรษฐกิจเท่านั้น ทั้งนี้การเรียกหารือด่วนดังกล่าว เพื่อเป็นการยุติ และลดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล

มีรายงานด้วยว่า ก่อนที่นายเศรษฐาจะเรียกนายอนุทินและนายสมศักดิ์หารือ ซึ่งเป็นช่วงก่อนการประชุมครม.  นายเศรษฐาได้เรียกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ,นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้ขึ้นไปรอบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายภูมิธรรม เปิดเผยกับผู้สื่อขาวก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ว่า ยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีเชิญหารือเรื่องอะไร เพิ่งรู้ตัวว่าท่านเรียกเช่นกัน

จากนั้น เวลา 09.45 น. นายเศรษฐา พร้อมด้วยรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ,นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา มารอรับที่ตึกบัญชาการ

สำหรับการประชุมครม. วันเดียวกันนี้ มีรายงานว่า มีรมต.ลาการประชุม 5 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม 2.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ 3.สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม 4.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ 5.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ระบุการพิจารณาเรื่องกัญชาต้องมีการรับฟังข้อมูลกันก่อน ถือว่าส่งสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับเรื่องกัญชาหรือไม่ ว่า นายพีระพันธุ์พูดมีหลักเกณฑ์ และได้โทรศัพท์ไปขอบคุณที่นายพีระพันธุ์มีความเข้าใจ ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็ติดใจในประเด็นเดียวกันว่าทำไมคณะกรรมการชุดเดียวกัน แต่แนวทางการตัดสินใจไม่เหมือนกัน เมื่อผู้บริหารองค์กรเปลี่ยนไป และคิดเหมือนกับตนว่าต้องขอข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายพีระพันธุ์ออกมาส่งสัญญาณแบบนี้ จะทำให้เลิกไม่สบายใจแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ถ้าหากไม่สบายใจคือ ไม่สบายใจในท่าทีของการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ประเด็นเรื่องกัญชา สบายใจอยู่แล้ว เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้องทุกอย่าง

“มีผู้ที่ได้ลงทุนในธุรกิจกัญชาไปแล้วหลายรายขู่จะฟ้องผม หากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก ซึ่งผมไม่พร้อมที่จะถูกฟ้อง เพราะไม่ใช่เรื่องของผม หรือเรื่องของธุรกิจ เพราะเมื่อได้ออกกฎไปแล้ว และมาปรับเปลี่ยนกฎอีก ความเสียหายย่อมเกิดขึ้น ซึ่งถูกฟ้องร้องได้ รวมถึงจะส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาลงทุน”