เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ หรือ “อว.แฟร์” จัดโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.  พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(นายอนุทิน ชาญวีรกูล) นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัตมน์ ปลัดกระทรวง อว.  และคณะผู้บริหาร เฝ้าฯ รับเสด็จ พร้อมมี นางสาวเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. และผู้แทนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย ณ ฮอลล์ 3 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
.
ในการนี้ นางสาวศุภมาส ได้เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร จากนั้น นายอนุทิน กราบบังคมทูลรายงานถึงการจัดงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND ส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง ที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี 

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงวางพระหัตถ์บนแท่นอะคริลิกเปิดงาน ฯ จากนั้นเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการ 6 โซนหลัก ได้แก่ 1.โซน SCIENCE FOR ALL WELL-BEING ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากนวัตกรรมของคนไทย 2.โซน SCIENCE FOR FUTURE THAILAND นำเสนอขบวนรถไฟแห่งอนาคต ฉายภาพให้เห็นประเทศไทยในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า 3.โซน INSPIRED BY SCIENCE ที่จะจุดประกายความคิด สร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจให้ทุกคน 4.โซน SCIENCE FOR LIFELONG LEARNING เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมแนะแนวอาชีพแห่งอนาคต และ 5.โซน SCIENCE FOR EXPONENTIAL GROWTH แสดงศักยภาพของงานวิจัยและนวัตกรรมของคนไทย 6.โซน STARTUP LAUNCHPAD ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการผลักดัน Startup ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกันนี้ ได้ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ (Royal Pavilion) ก่อนจะทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะผู้บริหารฯ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
 
สำหรับงาน “อว.แฟร์” เป็นงานมหกรรมที่รวมสหวิทยาการทั้งด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม การศึกษาที่มีคุณภาพ ด้าน Soft Power ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยมากกว่า 170 หน่วยงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับกิจกรรมและสาระความรู้ดี ๆ ผ่านนิทรรศการ 6 โซนที่แสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีของไทยและนานาชาติ โดยมีไฮไลต์เป็น ‘หินดวงจันทร์จากยานอวกาศฉางเอ๋อ 5’ ที่นำมาจัดแสดงนอกประเทศเป็นครั้งแรกในไทย เป็นสื่อสัมพันธไมตรีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย เครื่องเล่น VR สุดล้ำจากบริษัทผู้พัฒนาเกมออนไลน์รายใหญ่ของจีน การเฉลยข้อสอบ TCAS และการแนะแนวอาชีพในอนาคต บูธแสดงผลงานจากผู้ประกอบการและสตาร์ตอัป มากกว่า 300 บูธ ร่วมชม ช้อป ผลิตภัณฑ์ฐานงานวิจัยการันตีรางวัลจากหลายเวที ไม่ว่าจะเป็น อาหารนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Functional Food) อาหารแห่งอนาคต (Future Food) เครื่องสำอาง และสินค้าที่พัฒนาจากวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม และสินค้าด้าน Soft power โดยมีสินค้ามากกว่า 200 รายการ 20,000 กว่าชิ้น และกิจกรรมสัมมนา เวิร์กช็อปต่าง ๆ มากมาย พร้อมรับชมมินิคอนเสิร์ตจากหลากหลายศิลปินชื่อดัง ตลอดจนผู้ที่มาร่วมงานจะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลประจำวัน ได้แก่ รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า วันละ 2 คัน และรางวัลสูงสุดรถกระบะไฟฟ้า จำนวน 1 คัน พร้อมของรางวัลอื่น ๆ อีกมากกว่า 17,000 ชิ้น
 
โดยการจัดงาน “อว.แฟร์” ในวันแรก เริ่มต้นด้วยกิจกรรมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กับ "Japanese Startups Pitching" เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลงานและนวัตกรรมจากบริษัทสตาร์ทอัพของญี่ปุ่น เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เห็นถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้และพัฒนาต่อในบริบทของไทย รวมถึงสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการและนักลงทุนเพื่อส่งเสริมการเติบโตและความร่วมมือในอนาคต จากนั้นการแสดงสองชุดจากมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ได้แก่ “ราชาบุรีวิถีสายน้ำ” และ “ศิลปะการต่อสู้มวยไทยโบราณ” เพื่อแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและศิลปะของจังหวัดราชบุรี ต่อด้วย การแสดงสองชุดจากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้แก่
 
การแสดงชุดที่ 1 “บาร์เทนเดอร์โชว์” นำเสนอศิลปะการผสมเครื่องดื่มของบาร์เทนเดอร์ รวมถึงการโชว์ทักษะการใช้เครื่องมือ เทคนิคในการผสมเครื่องดื่ม และการแสดงชุดที่ 2 "ดนตรีและร้องเพลง Folk Song" นำเสนอเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้าน ปิดท้ายด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกับการแสดงพิเศษในชุด "สาวโคราชลำเพลิน" การแสดงนี้นำเสนอศิลปะการแสดงลำเพลิน ซึ่งเป็นรูปแบบดนตรีและการร่ายรำพื้นบ้านของจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราชที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวโคราชที่มีความรักในเสียงเพลงและการละเล่นพื้นบ้าน
 
นอกจากกิจกรรมและการแสดงที่หลากหลายแล้ว ยังมีมินิคอนเสิร์ตส่งท้ายจาก ซาร่าห์ ซาโรลา (Sarah Salola) ศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์และเพลงที่มีเนื้อหาโดนใจผู้ฟัง ซึ่งมินิคอนเสิร์ตนี้ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับผู้เข้าร่วมงานและสร้างบรรยากาศในงานให้มีความสนุกสนานและคึกคักยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใกล้ชิดและเพลิดเพลินกับการแสดงสด ๆ จากศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบด้วย
 
นอกจากนี้ ในงาน อว.แฟร์ มีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญกับการแสดง “โดรนแปรอักษร เฉลิมพระเกียรติ เทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีโดรนในรูปแบบที่สร้างสรรค์และงดงามในการแสดงความเคารพ โดยการแสดงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจและเสริมสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งจะจัดแสดงเพียง 2 วัน ในวันที่ 22 – 23 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป ณ ลานกลางน้ำ APEC2022 สวนเบญจกิติ
 
มาร่วมมาสัมผัสประสบการณ์จริงและเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ ด้วยตัวคุณเองในงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND งานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ ทั้งนี้ในวันที่ 22 กรกฎาคม จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น. และในวันที่ 23 – 28 กรกฎาคม 2567 เปิดให้ประชาชนเข้าชมงานตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mhesifair.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/MHESIThailand