ไลฟ์สไลต์คลายเหนื่อย สัมผัสชีวิตสาวอุดรลูกสาว อดีตข้าราชการตำรวจ  ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน โดยมีจุดมุ่งหวังว่าอยากเป็นครูสอนหนังสือตำรวจตระเวนชายแดน แต่กลับถูกให้มาอยู่ตำรวจพลร่ม จากนั้น ย้ายสังกัดมาอยู่ตำรวจภูธรภาค 7 และสอบภาษาอังกฤษ การสังกัด มาที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สำเร็จด้วยความพากเพียรยึดมั่นในอุดมการณ์ตามอุดมคติ"ใช้ชีวิตให้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะโลกเราตอนนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน " จ.ส.ต.หญิง ปฐมภรณ์ (ปุ้มปุ้ย )ชำนิราชกิจ  ผบ.หมู่ ส.ทท.3 กก.1 บก.ทท.1

ดิฉันเกิดที่เมืองอุดร จังหวัดอุดรธานีและมาเติบโตที่ กรุงเทพฯเป็นบุตรของคุณพ่อถนอมชาติ ชำนิราชกิจ อดีตเป็นตำรวจเก่า ปัจจุบันเป็น อาจารย์สอนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน จังหวัดกรุงเทพมหานคร กับคุณแม่ภัทราภรณ์ บุตรอินทร์ ที่ปรึกษบริษัทเอกชน มีพี่น้องร่วมกัน 3 คน บุตร 3 คน  เข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงชั้นระดับมัธยมศึกษาที่ โรงเรียน มัธยมวัดหนองแขม จากนั้นเคารพการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะ นิติศาสตร์ ม.เอเชียอาคเนย์จากนั้นก็ศึกษาต่อระดับปริญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ ม.กรุงเทพธนบุรี สอบเข้ารับราชการครั้งแรก ปี พ.ศ.2555 ที่กองบังคับการสนันสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  และจบนักเรียนนายสิบตำรวจ ตำรวจพลร่ม รุ่น 138 ปี พ.ศ.2556
จบหลักสูตร รบพิเศษ ของตำรวจพลร่ม รุ่น 239 จบหลักสูตร โดดร่ม ชั้น 3 รุ่น 216 ไม่จบออกมาดำรงตำแหน่งหน้าที่ ธุรการ และ ตำรวจมวลชนสัมพันธ์ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม และสอบย้ายเข้า รับราชการสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เมื่อปี พ.ศ.2561สายงาน ป้องกัน ปราบปราม 

ดิฉันเลือกเป็นตำรวจ เพราะว่าส่วนตัวแล้วชอบ และใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก ว่า อยากเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ต้องเป็นครู ตำรวจตระเวนชายแดน เท่านั้น ( ณ ตอนนั้นยังไม่ทราบระบบสายงาน ) และ เมื่อตอนปี 2555 มีการเปิดสอบ นักเรียนนายสิบตำรวจ ที่รับผู้หญิงด้วย 2 หน่วย คือ ตำรวจตะเวนชายแดน กับ กองร้อยน้ำหวาน ดิฉันไม่ลังเลที่จะเลือก ตำรวจตระเวนชายแดน และสอบติดและดีใจมาก วันรายงานตัวเพิ่งมาทราบว่า ตัวเองไม่ได้เป็นครู ตำรวจตระเวนชายแดน แต่เป็น ตำรวจพลร่ม ซึ่งเป็นหน่วยรบของตำรวจ เป็นหน่วยกำลัง ซึ่งในใจคิดว่าอะไรคือพลร่มหญิง พอได้เข้ามาฝึก ถึงกับร้อง แต่ได้มีโอกาสแล้วก็ต้องสู้สิ 

ดิฉันชอบ และรู้สึกชอบ ที่ได้มีโอกาสทำอะไรที่ไม่เคยทำ ที่คิดว่าตัวเองจะทำไม่ได้ แต่ก็ผ่านมาทุกครั้งตอนโดดร่ม ครอบครัวได้มีโอกาส มาดู คุณพ่อรู้สึกกลัว เพราะเกิดอุบัติเหตุ หัวน็อคพื้น แต่ไม่รุนแรงนะคะ แค่ งงๆ เฉยๆหลังจากนั้น ไม่นานก็ได้รับโอกาส จากผู้บังคับบัญชาได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านได้ใกล้ชิด ดูแล ครอบครัว

เมื่อมาอยู่ สภ.โพธิ์แก้ว ทำหน้าที่ในโรงพัก เป็นงานด้านธุรการ และได้รับเมตตาจาก ท่าน ผกก.สภ. ให้ทำหน้าที่มวลชนสัมพันธ์ด้วย ไปทำหน้าที่ดูแล ช่วยเหลือ ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ต่างๆ ตามชุมชน โรงเรียน โรงงาน ถือว่าเป็นประสบการณ์ อีกอย่างที่ถือว่าดีมากทีเดียว ขอเป็นส่วนเล็กๆ ที่พอจะช่วยประชาชนได้ ได้เห็นมุมมองอีกมุมมองหนึ่งของตำรวจ ว่าอาชีพตำรวจ ไม่ใช่แค่จับผู้กระทำความผิดมาลงโทษ แต่ตำรวจต้องเข้าถึง เป็นที่พึ่ง ให้ประชาชนที่เดือดร้อน เพราะทำงานในโรงพัก จะเห็นมีแต่คนที่เดือดร้อน มาปรึกษา มาพึ่ง ตำรวจ ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ตำรวจโรงพักสามารถช่วยเหลือ ได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อมแต่ก็นั้นแหละ ความอยากรู้ไม่ได้จบเพียงเท่านี้  เมื่อกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดสอบบุคคลภายใน ในปี พ.ศ.2561 จึงได้ลองมาสอบ เพื่อหาประสบการณ์ โลดแล่น ในยุทธจักร ต่อไปและได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ สายงานป้องกันปราบปราม ประจำสายตรวจรถยนต์ ดูแลพื้นที่ฝั่งธนฯ  เป็นอีกหน้างานที่หน้าสนใจ เพราะเราได้ไปพบกับประชาชน อีกกลุ่ม ซึ่งมีความพิเศษ คือ เป็นนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ได้เปิดวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนทัศนคติ กับชาวต่างชาติ ได้ดูแล ช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือนร้อน และรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่เห็นนักท่องเที่ยว ยิ้ม มีความสุข กับการช่วยเหลือ ของตำรวจท่องเที่ยว

ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หลังว่างเว้น จากการทำงาน คือ เที่ยวทุกที่ ทุกแบบ ขอให้ได้เที่ยว จะใกล้ จะไกล ขอให้ได้เที่ยว คือการผ่อนคลายที่ดีที่สุด และถือว่าเป็นการไปหาประสบการณ์ชีวิต เพราะคิดว่า โลกใบนี้มันกว้าง เราต้องไปใช้ชีวิต ให้คุ้มค่ะ ไปให้ทุกจุดบนโลกกว้าง

สำหรับการรับประทานอาหารเป็นคนที่มีสไตล์ง่ายๆ คือชอบไปหาของกิน อร่อยๆ ตามรีวิว ในสื่อโซเชียลชอบไปนั่งดื่มกาแฟตามคาเฟ่ ชิมกาแฟ ชอบถ่ายรูป แต่เป็บแบบให้เขาถ่ายนะคะ  ชอบนวด นวดผ่อนคลาย ใช้ชีวิตให้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะโลกเราตอนนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน 

ส่วนการทำงานที่ประทัปใจในปี67 ก็คือ การได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ประสบอุบัติเหตุเรือชนกันที่แม่น้ำเจ้าพระยา นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว ปิดเคสด้วยการเดินทางไปส่งกลับประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นักท้องเที่ยวได้กล่าวขอบคุณและจะเดินทางกลับมาเที่ยวเมืองไทยใหม่ในโอกาสหน้า ดิฉันรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ และภาคภูใจในการเป็นตำรวจท่องเที่ยว เพราะเราคือเพื่อนคนแรกของนักท่องเที่ยว  Your First Friend