วันที่ 22 ก.ค.67 นายชณันวัชร์ อายุ 43 ผู้เสียหาย เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกคู่กรณีใช้อาวุธปืนไล่ยิงก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกเกษตร
ผู้เสียหาย เล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.30 น. ซึ่งวันนั้นได้ไปรับผู้โดยมาจากย่านลําลูกกาเพื่อไปส่งแถวสุธิสาร โดยขับรถมาตามปกติ แต่จู่ๆ รู้สึกผิดปกติบริเวณ ซ.พหลโยธิน 44 เนื่องจากมีรถคันหนึ่งพยายามขับเร่งเครื่องตามรถของตัวเองมา กระทั่งจังหวะที่กําลังจะขึ้นสะพานข้ามแยกเกษตรได้ยินเสียงลักษณะคล้ายปืนดังขึ้นจํานวน 3 ครั้ง ซึ่งรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงหันไปดูผู้โดยสารว่าเป็นอะไรหรือไม่ ก่อนจะรีบขับออกมาให้เร็วที่สุด
จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน โดยตํารวจตรวจสอบร่องรอยกระสุนที่รถ ระบุว่า น่าจะเป็นปืนขนาด .22 แต่เมื่อตรวจสอบวงจรปิดในรถพบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.บางเขน จึงแนะนําให้ไปแจ้งความที่ สน.บางเขน เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.บางเขน ก็บอกว่ารอยกระสุนน่าจะเป็นขนาด .22 เช่นกัน และได้ทําการติดต่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน แต่เนื่องจากติดวันหยุดยาว ตํารวจจึงให้จอดรถทิ้งไว้ก่อน
ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 21 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตํารวจได้โทรมาแจ้งว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ให้เขามาพูดคุยโดยอ้างว่า “มีผู้ใหญ่อยากให้เคลียร์กันให้จบ” เมื่อมาถึง สน.บางเขน พบคู่กรณีและได้มีการพูดคุยกัน โดยเขาเสนอเงินให้จํานวน 20,000 บาท แต่ตนปฏิเสธ เพราะมองว่าหากวันนั้นมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ หลังจากนั้นตํารวจได้มาคุยกับตนอีกครั้ง บอกว่าหากไม่รับเงินก็จะไม่ได้อะไรเลย เพราะปืนที่ยิงเป็นปืนบีบีกันหรือปืนปลอม ซึ่งผู้ก่อเหตุนํามามอบให้ขณะเข้ามอบตัว จึงยิ่งทําให้รู้สึกตกใจเพราะตอนแรกบอกเป็นปืนขนาด .22 อีกทั้ง พฐ. ก็ยังไม่เข้าตรวจคราบเขม่าดินปืนและตํารวจก็ไม่ได้เข้าค้นบ้านของคู่กรณี รวมถึงมีตํารวจนายหนึ่งบอกว่า คู่กรณีของตนเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่เรื่องเงียบมาโดยตลอด ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเดินทางมาร้องขอให้สายไหมต้องรอดช่วยเหลือ
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทําการประสาน ผู้กํากับการ สน.บางเขน แล้ว โดย ผกก. ระบุว่า แม้ผู้ต้องหาจะนําปืนปลอมมามอบให้ตํารวจ แต่ไม่ได้หมายความว่าตํารวจจะเชื่อว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ ต้องรอเจ้าหน้าที่ พฐ. เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งทั้งตัวปืนและรอบกระสุนที่รถของผู้เสียหาย หากพบมีการกระทําความผิดจริงก็จะต้องดําเนินคดีตามกฎหมาย