หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

ยังทำใจดีสู้เสือ ท่ามกลางสถานการณ์ที่อ่อนไหวและเปราะบางเต็มที  “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเชื่อมั่น “ก้าวไกล” จะไม่ถูก “ยุบพรรค” แน่นอน วันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดหมายฟังคำวินิจฉัย เอาไว้ที่ 7 สิงหาคมนี้ ขอให้ทุกคนรอฟัง “ข่าวดี” ไปด้วยกัน แต่ยังไม่วายที่ “พิธา” ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า  ต้องเตรียมรับมือ “ทุกสถานการณ์”  ...*...

ความมั่นใจของ “พิธา” และ “คีย์แมน” ของพรรคก้าวไกล ไม่อาจทำให้ “ลูกพรรค” เชื่อได้ว่า “ข่าวร้าย” จะไม่เกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมนี้  ยิ่งเมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ไม่เปิดการไต่สวนคดียุบพรรคก้าวไกล โดยศาลรัฐธรรมนูญ ให้เหตุผลว่า “คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561” ดังนั้นศาลฯจึงนัดหมาย ชี้ชะตาพรรคก้าวไกลในวันดังกล่าว ...*...

แนวการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญใน “คดียุบพรรคก้าวไกล” จะออกมาหน้าไหนถูกประเมินด้วยกันหลายทาง แต่ทิศทางที่ออกมาแทบไม่ต่างกัน คือผลในทาง “ร้าย” มากกว่า “ดี” สวนทางกับสิ่งที่ “พิธา” และ “ชัยธวัช ตุลาธน” สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พยายาม “ให้กำลังใจ” สมาชิกพรรค ตลอดจน “ด้อมส้ม” โดยเฉพาะเมื่อย้อนกลับไปดู “คำร้อง” ที่ “กกต.” ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ คือการอ้างถึงเหตุแห่งการยุบพรรค ว่า “มีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงทรงเป็นประมุข ...*...

และอันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1)(2) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฎตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 จึงขอให้ศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค” ...*...

ดังนั้นลึกๆแล้ว “คีย์แมนก้าวไกล” ก็ล้วนหวั่นไหวกันถ้วนหน้า แต่ครั้นจะให้ “แสดงออก” โดยที่ “กรรมการ” บนเวทียังไม่ประกาศ “แพ้-ชนะ” ทุกท่าทีของ “ผู้นำ” ย่อมถูกนำไปตีความได้ทั้งสิ้น การตระเตรียมการจัดทัพนั้นมีมาโดยตลอดไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้ สุดแท้แต่ว่า “เจ้าของพรรคตัวจริง” อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”  ประธานคณะก้าวหน้า จะ “ตัดสินใจ” เลือก “ใคร” ขึ้นมาถือธงนำ “พรรคใหม่” ต่อจาก “พิธา” ผู้นำรุ่นที่ 2 รับไม้ต่อจาก “อนาคตใหม่” ที่ถูกยุบพรรค เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 จากคดีที่ “พรรคอนาคตใหม่” กู้เงิน “ธนาธร”  หัวหน้าพรรค เป็นเงินจำนวน 191 ล้านบาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ...*...

และสำหรับ “ว่าที่ผู้นำพรรครุ่นที่ 3” ว่ากันว่าตัวเลือกในมือ “ธนาธร” นั้นมีทั้ง “หญิง” และ “ชาย” ซึ่งล้วนติดปัญหาตรงที่ว่า “ตัวเลือก” ที่มีอยู่ เช็คพิกัดกันแล้ว ยัง “ยาก” ที่จะกวาด “คะแนนนิยม” ได้เท่ากับที่ “พิธา” เคยทำมา เท่ากับว่า “ยิ่งยุบ ยิ่งโต” ตามที่คุยกันเอาไว้ คงยากลำบากเสียแล้ว กระมัง ! ..*..

ที่มา:พันแสง (22/07/67)