สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ แถลงยกระดับคำเตือนต่อพลเมืองให้งดเดินทางไปบังกลาเทศขึ้นเป็นระดับ 4 ซึ่งสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ จากการชุมนุมประท้วงที่นำโดยกลุ่มนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อประท้วงต่อแผนการกำหนดโควตาการจ้างงานภาครัฐ จนนำไปสู่การจลาจล การนองเลือด ทำให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 114 ราย และมีผู้ได้รับาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน

พร้อมกันนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานฉุกเฉิน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว สามารถเดินทางออกจากบังกลาเทศได้ตามความสมัครใจ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัฐบาลกรุงธากาของบังกลาเทศ ได้ประกาศขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ที่กำหนดให้ประชาชนอยู่แต่ในเคหสถานตามเวลาทื่ทางการกำหนด โดยการขยายเวลาการบังคับใช้ข้างต้น จะมีไปถึงเวลาในช่วงเย็นของวันอาทิตย์นี้ เพื่อรอคำสั่งศาลในการพิจารณาคำร้องว่าด้วยการกำหนดโควตาการจ้างภาครัฐ ซึ่งเป็นชนวนก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วง และลุกลามบานปลายกลายเป็นจลาจลนองเลือดดังกล่าว

โดยการชุมนุมประท้วงที่นำโดยกลุ่มนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในบังกลาเทศ เกิดขึ้นเนื่องจากความไม่พอใจต่อแผนโควตาการจ้างงานของภาครัฐ ซึ่งสงวนตำแหน่งงานไว้ถึงร้อยละ 30 ของตำแหน่งงานต่างๆ ทั้งหมด ไว้ให้กับบุตรหลานของทหารผ่านศึกในสงครามประกาศเอกราชจากปากีสถาน เมื่อปี 1971 (พ.ศ. 2514)