วันที่ 21 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวปรจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากนายเทิดศักดิ์ อายุ 28 ปี ลูกชายของนายแดนเหนือ อายุ 54 ปี และนางสมส่ง อายุ 49 ปี ยู่ ม.11 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ว่า เวลาประมาณ 22.55 น. ของคืนวันที่ 19 ก.ค.67ได้มีคนร้ายถือมีดเข้าไปหวังจะทำร้ายแม่และข่มขู่จะฆ่าให้ตายและเกิดการต่อสู้กันในขณะที่พ่อกลับมาจากหาปลาที่อ่างพบกำลังต่อสู่กันคนร้ายเห็นกระโดดหน้าต่างหนีไปหลังจากนั้นพ่อพาแม่ไปหาหมอและเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สำโรงทาบให้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดหลังจากที่พบหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนในหมู่บ้านและเป็นคนคุ้นเคยกันดีแต่การกระทำไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองจึงวอนสื่อช่วยกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่หมู่บ้านเกาะแก้วพัฒนา ม.11 ต.เกาะแก้ว.อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ พบนายแดนเหนือ และนางสมส่ง สองสามีภรรยา กำลังนั่งคุยกับบรรดาพี่น้องที่เดินทางมาคอยให้กำลังใจนางสมส่ง หลังจากที่ถูกคนร้ายข่มขู่และได้ลงมือทำร้ายและเกิดการต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บประกอบกับไม่กล้าไปนอนที่บ้านตนเองเกรงว่าจะถูกตามไปฆ่าจึงได้มาขออาศัยบ้านญาติอีกหลังภายในหมู่บ้านเดียวกันเป็นเวลา2คืนแล้วและพาสามีมาแจ้งความเพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

นางสมส่ง บอกว่า ในคืนวันเกิดเหตุคือวันที่19 ก.ค.67 เวลาประมาณ 22.30 น.ในขณะที่ตนเองกำลังนอนอยู่ที่บ้านได้ยินเหมือนกับคนเดินเข้ามาในบ้านจึงได้ส่องออกมาดูคิดว่าเป็นสามีของตนเองเพราะสามีออกไปทอดแหที่อ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้วเพราะในช่วงนี้ฝนตกน้ำไหลหลากประกอบกับชาวบ้านพากันออกไปทอดแหกันในระหว่างที่ส่องไปดูพบคนร้ายถือมีดยาวประมาณ 50 ซ.ม.วิ่งเข้ามาหาและเข้ามาบีบคอตนเองและมีการต่อสู้โดยคนร้ายได้ใช้มีดแทงมาที่ลำตัวตนเองหลบซ้ายและหลบขวาจนกระทั่งคนร้ายจับหัวโขลกไปที่กำแพงและตนเองจับมือที่ถือมีดของคนร้ายไว้ได้เกิดการยื้อแย้งกันและคนร้ายบอกว่ากูจะฆ่ามีงให้ตายในขณะนั้นเอง นายแดนเหนือ ซึ่งเป็นสามีตนเองกลับมาจากหาปลาที่อ่างเก็บน้ำมาเห็นเหตุการณ์จึงได้วิ่งเข้ามาและคนร้ายกระโดดหน้าต่างหนีไปพร้อมกับทิ้งผ้าขาวม้าที่นุ่งมาหลุดลงและมีดปลายแหลมยาว 50 ซ.ม.ทิ้งเอาไว้จึงเก็บไว้เป้นหลักฐานเพื่อนำไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงทาบ

ก่อนที่จะไปแจ้งความได้เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.สำโรงทาบ ทางร.พ.ให้นอนพัก 1 คืนพอตื่นเช้ามาก็นำใบรับรองแพทย์นำมาแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมเกียรติ นิยมเหมาะ รองสว.(สอบสวน) สภ.สำโรงทาบ โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์และทราบว่าคนร้ายนั้นเป็นผู้ใดและมีตำแหน่งแพทย์ประจำตำบลในเขตพื้นที่อ.สำโรงทาบจ.สุรินทร์ประกอบกับแพทย์ประจำตำบลคนดังกล่าวเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกับผู้คนใหญ่คนโตภายในเขตพื้นที่อ.สำโรงทาบทางผู้เสียหายเองก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป้นธรรมจึงได้เข้าร้องกับผู้สื่อข่าวติดตามและนำเสนอข่าวให้กับตนเองและครอบครัวด้วยเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองเอาเสียเลยก่อเหตุในยามวิกาลค่ำคืนพร้อมกับได้ข่มขู่จะฆ่าให้ตายถ้าหากว่าสามีไม่เข้ามาพบคงต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอนเพราะคดีนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปติดตามและตรวจสอบได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งตะโกนบอกว่าคุณเป็นอะไรกับผู้เสียหายและยังบอกว่าห้ามถ่ายและบันทึกภาพเด็ดขาดถ้าจะถ่ายหหรือบันทึกภาพต้องไปขออนุญาติกับผู้บังคับบัญชาของตนเองเสียก่อนหลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางกลับมาโดยไม่ได้โต้ตอบอะไรและมานั่งวิเคราะห์ว่าคดีดังกล่าวที่ชาวบ้านบอกว่าเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้นก็บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเขาบอกว่าคนร้ายน่าจะเส้นใหญ่จริงๆ