จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.67 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธภรภาค 5 ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าตรวจค้นจุดติดตั้งอุปกรณ์กระจายสัญญาณ SIMBOX ที่กลุ่มเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารไปยังประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลขอหมายค้น และได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้นที่ห้องพักเลขที่ 465/33 อาคารชุดเอื้ออาทรป่าตัน 1 อาคาร1 ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ห้องพักเลขที่ 460/60 อาคารชุดบ้านเอื้ออาทรไนท์ซาฟารี อาคาร1 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยการตรวจค้นก็พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด(SimBox) จำนวน 12 เครื่อง เครื่องสำรองไฟ
เร้าเตอร์อินเตอร์เน็ตทรศัพท์มือถือ และจับกุมตัว น.ส.วนัชพร อายุ 26 ปี นายธีราวัฒน์ อายุ 22 ปี MISS NANG อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา นางสาวสุวรรณลักษณ์ อายุ 25 ปี ก่อนนำตัวทั้งหมดดำเนินคดีข้อหา"ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม ต่อมาทางขุดสืบสวนภาค5 ได้ขยายผลจากการจับกุมคดีดังกล่าวโดยทราบว่าหัวหน้าของกลุ่มต้องหามี่ได้มาจากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาทั้งสี่คนคือพ.ต.ท.บัณฑิต คนการ สารสัตร อก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ที่ เป็นคนบงการ และผู้ต้องหาคนนึ่งยังเป็นลูกของพ.ต.ท.บัณฑิต ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการออกหมายจับทางพ.ต.ท.บัณฑิต ได้ขอมอบตัวในวันจันทร์แต่ทางชุดสืบสวนภาค 5 สืบจังหวัดเชียงใหม่ สืบสวนสภ.ช้างเผือก ได้นำหมายจับบุกเข้าจับกุมตัวพ.ต.ท.บัณฑิต ที่ จ.1233/2567 ลงวันที่ 18 ก.ค67 ในข้อหา"ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม " ขณะบวชอยู๋ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอ งาว จ.ลำปาง ก่อนนำตัวไปให้เจ้าคณะอำเภอทำการสึก และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฏหมาย
ต่อมาทางพล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 พร้อมคณะสอบสวนได้เดินทางมาที่ สภ.ช้างเผือก และทำการนำตัวพ.ต.ท.บัณฑิต มาสอบสวนปากคำ เบื้องต้นพ.ต.ท.บัณฑิต รับว่าได้ร่วมกระทำในคดีนี้ในส่วนแค่ช่วยยกของ และดูให้ลูก โดยเครื่องดังกล่าวกลุ่มเพิ่อนลูกประสานกับล่ามและหัวหน้าแก๊งคือคนจีน นำเครื่องมาตั้งไว้ ตั้งได้เดือนเศษ ซึ่งตนไม่ทราบว่าคือเครื่องอะไรทำงานอย่างไรและไม่รุ๋อะไรกับธุระกิจนี้เลย ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ทราบ
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาก็ให้การปฏิเสธเพราะลูกติดภรรยาทั้งสองคนที่ถุกจับ ใช้ห้องพักตัวเองเป็นสถานท่่ส่งสัญญาน ตอนเขาเริ่มติดตั้ง ผู้ต้องหาแค่แวะไปดู โดยไม่รู้ว่าอุปกรณ์ทุกอย่างใช้ทำอะไร ไม่รู้เป้นของผิดกฏหมาย แค่มาดุให้ลูกช่วบขนขอฃขึ้นห้องพัก ค่าตอบแทนใดๆก็ไม่ได้รับเลย ซึ่งตรงนี้เป็นคำให้การของผู้ถูกจับกุมจากนี้เราก็จะเดินหน้าหาความจริงโดยเรามีพยานหลักฐานมากพอจึงออกหมายจับได้และเชื่อว่ามีผู้ร่วมอีกหลายคน
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เท่าที่สอบปากคำ ผู้ต้องหา ทราบว่าลูกของผู้ต้องหาได้รับการติดต่อจากฝั่งประเทศประเทศเมียนมาซึ่งเป็นคนจีน ให้นำเครื่องที่ใช้ในการก่อเหตุเข้ามาวางในเชียงใหม่ โดยลูกของผู้ต้องหาได้มาขอให้ผู้ต้องหาช่วยวางและช่วยขนของ ซึ่งการเป็นตำรวจต้องทราบอยู่แล้วว่าสิ่งพวกนี้ผิดกฎหมายและไม่สมควรทำ และหลักฐานว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องจึงได้ออกหมายจับคุมตัวมาดำเนินคดี ตอนนี้อยู่ในระหว่างการออกหมายจับคนที่สั่งการและคนประสานงานที่นำเครื่องก่อเหตุเข้ามา และอย่างน้อยน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการสักสามคน ซึ่งอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
"ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อกระทำความผิดเราก็เร่งออกหมายจับเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ตอนนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำผิดหากพบว่าการกระทำผิด ก็อยู่ในขั้นตอนต่อไปว่าจะปลดออกจากราชการหรือไม่ ซึ่งจะดำเนินการในเร็วเร็วนี้ เท่าที่ดูข้อมูลทั้งหมดยังไม่มีนายตำรวจคนอื่นๆเข้าไปเกี่ยวข้องและเป็นการกระทำผิดเฉพาะตัวลูกและครอบครัว ส่วนรายละเอียดการขยายผลคดีนี้เราก็พบผู้เกี่ยวข้องในคดีอีกหลายคนซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป" ผบก.เชียงใหม่ กล่าว