“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” ...*…

ลุ้นระทึก การเมืองสิงหาเดือด! ด้วยศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา พรรคก้าวไกล และการพ้นโทษได้รับการปล่อยตัวของ ทักษิณ ชินวัตร  ในจังหวะเดียวกัน ยังรออีก  1 ช็อต ที่คาดว่าจะได้ความชัดเจนในเวลาใกล้เคียงกัน ก็คือชะตากรรมของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน …*…

แม่นอย่างกับตาเห็น ที่คอลัมนิสต์อาวุโส “บารอน” ฟันธงเอาไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนๆว่า คดียุบพรรคจะไม่เปิดไต่สวนสาธารณะที่สุด  ศาลรัฐธรมนูญไม่รับมุก ก้าวไกล สั่งยุติการไต่สวนคดียุบพรรคก้าวไกล พร้อมนัดฟังคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ ...*...

 แต่เปิดโอกาสให้คู่กรณีก็คือพรรคก้าวไกลและกกต. ยื่นแถลงปิดคดี ภายในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ แม้ปากจะกล้า ประกาศปาวๆ ยิ่งยุบยิ่งโต แต่ลึกๆ ก็ “ขาสั่น” อดหวั่นไหวไม่ได้ ...*...

นักข่าวไปถาม “เดอะต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า “น่าจะไม่ยุบแล้วมั้ง” อะไรที่ทำให้ “เดอะต๋อม” มั่นใจ เรื่องนี้ “เดอะต๋อม” ก็คือทั้งพยาน ความเห็นของ อาจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ ...*...

 “เอางี้ ยืนยันว่าทุกอย่างภายในพรรคนิ่งหมด เราบริหารจัดการได้ แต่เรายังเชื่อมั่นว่า แม้ศาลจะวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมาย เราเชื่อว่าข้อกฎหมายมีน้ำหนัก ถ้าใครได้เห็นเอกสารหลักฐานที่ผมแถลงไปวานนี้ ซึ่งไม่ได้เผยแพร่ ยิ่งมั่นใจ” ...*...

“ขณะนี้ระยะเวลาผ่านมานานแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว ตกผลึกหมดแล้ว คือคดีนี้มันมาถึงนี่หลายเดือนแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้วภายในพรรค” พอนักข่าวถามว่า พูดแบบนี้หมายความว่าเต็มใจยอมรับ หากพรรคถูกยุบใช่หรือไม่  “เดอะต๋อม” บอกว่า ไม่ใช่เต็มใจยอมรับ ยังเตรียมมาทำงานอยู่วันที่ 8 ส.ค. …*…

ส่วนกรณีการตรวจสอบ วุฒิการศึกษาของ สว.  ที่ “เหาะเกินลงกา” เวอร์วังอลังการ ใส่ไว้ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3)   เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอก ลวง  จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ...*...

พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. 2561  มาตรา  77  กำหนดไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (4)   หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด  เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี  หรือปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ    และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด  20 ปี ...*...

แต่เรื่องนี้ต้องรอกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์เจตนา ทว่าเมื่อเกิดกรณีนี้จากกรณีนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ที่  ฝ่ายต่างๆ จะถือเป็นโอกาสในการสังคยานา บรรดา “ผู้วิเศษ” ที่เอาคำนำหน้านาม มาหลอกลวงหากิน ไปบรรยาย หรือไปเข้าร่วมอบรมหลักสูตรต่างๆ เพื่อหาคอนเน็กชั่นกันได้แล้ว …*…

ที่มา:ศรพระราม (19/7/67)