วันที่ 19 ก.ค.2567 นายนิคม มากรุ่งแจ้ง สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาที่ไปร่วมหารือพูดคุยกับสว.ที่ตึก CS เอสทาวเวอร์ ถนนรัชดาฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า การหารือกันของสว.ดังกล่าว มีสว.ร่วมหารือด้วยประมาณร่วมๆ 36 คนที่เป็นการคุยกันของสว.ที่เห็นด้วยกับแนวทางการรวมตัวกันในชื่อ”สว.กลุ่มอิสระ” และมีสว.อีกบางส่วนที่เห็นด้วยกับแนวทางการเป็นสว.กลุ่มอิสระและตอบรับจะมาร่วมด้วย แต่เมื่อวานไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย ซึ่งในการพบกันดังกล่าว ก็มีการพูดคุยกันถึงการนัดประชุมวุฒิสภาวันอังคารนี้ 23 ก.ค. เพื่อเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ซึ่งในการหารือ สว.หลายคน ก็เห็นว่านายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีตกกต.ที่มาร่วมหารือด้วย มีความเหมาสมที่จะถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภา เพราะมีความรู้ด้านกฎหมาย เป็นทั้งอดีตกกต. -อดีตผู้พิพากษา -อดีตที่ปรึกษานายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานกกต.ที่เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่สองสมัยที่ผ่านมา นอกจากนี้ ก็มีสว.อีกคนหนึ่งที่มาร่วมประชุมด้วย ได้แสดงความสนใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา โดยทั้งนายบุญส่งและสว.อีกหนึ่งคนที่แจ้งว่าสนใจชิงรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ก็ได้มีการพูดถึงการทำงานหากได้รับเลือกให้เป็นรองประธานวุฒิสภา ซึ่งในการพูดคุยกันดังกล่าว สว.หลายคน ก็ได้บอกกับ สว.คนดังกล่าวว่า ให้ไปทำความแน่ใจให้ชัดว่า สนใจจะลงสมัครชิงรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งจริง ก็ขอให้ไปพิจารณาตัดสินใจและแจ้งกลับมายังสว.กลุ่มอิสระ แล้วจะมีการหารือกันอีกครั้งสำหรับสว.กลุ่มอิสระ แต่ที่ชัดเจนแล้วก็คือ นายบุญส่ง จะลงสมัครชิงรองประธานวุฒิสภาคนที่สอง
“กลุ่มเราเรียกตัวเองว่าสว.กลุ่มอิสระ ที่เป็นการรวมกันของสว.แบบหลวมๆ ซึ่งที่คุยกันเมื่อวาน ก็คือ จะสนับสนุน นายบุญส่ง ที่เสนอตัวที่จะลงสมัครเป็นรองประธานวุฒิสภา เพื่อที่จะไปเจรจากับทางโน้น เพราะถ้าเจรจาทางโน้น ก็น่าจะให้ท่านบุญส่งขึ้นเป็นรองประธานวุฒิสภาได้ เพราะท่านบุญส่ง ก็เป็นผู้มีความรู้ เป็นอดีตอธิบดีศาลอุทธรณ์ภาคเจ็ด ซึ่งผมก็เคยรู้จักท่านบุญส่งมาก่อน เพราะศาลอุทธรณ์ภาคเจ็ด ก็ครอบคลุมพื้นที่สมุทรสาครบ้านผม ก็เห็นว่าท่านเหมาะสมจะเป็นรองประธานวุฒิสภา เพราะรู้งานวุฒิสภาเคยเป็นที่ปรึกษานายศุภชัย สมเจริญ อดีตรองประธานวุฒิสภา แล้วก็ยังแม่นเรื่องข้อกฎหมาย ที่เราคุยกันเมื่อวาน ก็ชัดว่าจะเสนอท่านบุญส่ง ส่วนว่าจะต้องไปคุยกับกลุ่มโน้นอย่างไร ผมไม่ใช่ทีมเจรจาก็ตอบไม่ได้ แต่ก็ประมาณนั้น ส่วนประธานวุฒิสภา ที่คุยกันเมื่อวาน ไม่มี มีแค่เรื่องส่งคนลงรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งกับคนที่สองเท่านั้น”นายนิคมกล่าว
นายนิคม ยังกล่าวถึงการลงมติเลือกประธานวุฒิสภาว่า สว.กลุ่มอิสระมีแนวทางคือ เลือกคนที่มีอุดมการณ์ที่ดี รู้เรื่องข้อกฎหมาย เพราะประธานวุฒิสภา ที่เป็นรองประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ทำให้ตอนประชุมร่วมรัฐสภา ส.ส. 500 คนกับสว. 200 คน สว.เราจึงต้องหาคนที่รู้ข้อกฎหมายเป็นอย่างดี เพราะหากเขาไม่มีความเกรงใจ การไปทำหน้าที่รองประธานรัฐสภาตอนประชุมร่วมรัฐสภา ก็จะลำบาก ยืนยันว่ากลุ่มอิสระ เราไม่ได้เลือกตามกระแส เพราะเราเป็นแนวทางอิสระ โดยดูจากการแสดงวิสัยทัศน์ของคนที่ถูกเสนอชื่อที่จะแสดงวิสัยทัศน์ตอนประชุมวุฒิสภา รวมถึงประวัติของแต่ละคนที่ถูกเสนอชื่อ
“อย่างที่มีจะมีแคนดิเดตตามข่าวเช่นอดีตนายพล อดีตอธิบดี หรือท่านบุญส่ง น้อยโสภณ เราก็จะดูว่าแต่ละคนเหมาะสมอย่างไร เราจะไม่โหวตตามกระแส ไม่โหวตามโพยหรือตามคำสั่งใคร”นายนิคมกล่าว
แหล่งข่าวจากสว.กลุ่มอิสระอีกคนหนึ่งที่ไปร่วมหารือด้วยที่ตึก CS เอสทาวเวอร์ รัชดาฯ เปิดเผยว่าในการหารือดังกล่าว นายนพดล อินนา สว.ที่เป็นอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย สายร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรมว.มหาดไทย และอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มาร่วมหารือด้วย โดยมีรายงานว่านายนพดล ได้แจ้งกับสว.กลุ่มอิสระว่า สนใจจะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง และได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ว่า หากเข้าไปเป็นรองประธานวุฒิสภาจะเข้าไปผลักดันหรือมีแนวทางการทำงานอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมสว.กลุ่มอิสระดังกล่าว ยังไม่มีท่าทีชัดเจนว่าจะสนับสนุนนายนพดลหรือไม่ โดยบอกว่าขอให้นายนพดล ไปตัดสินใจให้ชัดเจนว่าจะลงจริงหรือไม่ และต้องการรู้ว่านายนพดล ถึงตอนนี้ มีเสียงสนับสนุนจากสว.กลุ่มอื่นๆ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งแตกต่างจากกรณีของนายบุญส่ง ที่สว.กลุ่มอิสระดังกล่าว ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าพร้อมจะโหวตให้นายบุญส่ง ชิงรองประธานวุฒิสภาและมีการให้ตัวแทนของกลุ่มไปพูดคุยกับสว.สีน้ำเงินว่า โควตารองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ขอให้เป็นของกลุ่มอื่น ที่ไม่ใช่สว.สีน้ำเงิน โดยขอให้สว.สีน้ำเงิน สนับสนุนนายบุญส่ง ซึ่งตัวแทนสว.กลุ่มอิสระ ที่รับไปพูดคุยกับสว.สีน้ำเงิน บอกว่าจะนัดคุยกับสว.สีน้ำเงินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และจะมีการแจ้งผลการเจรจาภายในเย็นวันจันทร์ที่ 22 ก.ค.