ศาลอาญามีนบุรี ออกหมายจับ บาส หลังบุกเดี่ยวชิงทอง ญาติเชื่อมูลเหตุเป็นเพราะติดยาเค ติดพนันออนไลน์ เป็นหนี้เยอะ ญาติทุกคนอยากให้มอบตัว โทษหนักจะได้เป็นเบากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ 

จากเหตุการณ์คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองจากร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขา1 สุขาภิบาล3 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้นั้น ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ค. 67) ความคืบหน้าทางคดี ศาลอาญามีนบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับ นายพงษ์ศธร มะหะมาน หรือ บาส อายุ 26 ปี แล้ว ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ขณะที่มีการรายงานจากชุดสืบสวน ระบุว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปบ้านญาติที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อตำรวจไปติดตามพบว่า ญาติได้ไล่ตะเพิดผู้ต้องหาออกจากบ้านไปแล้ว หลังรู้ว่าไปก่อเหตุชิงทองมา ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบข้อมูลด้วยว่าผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์คันหนึ่งไปที่ จ.ฉะเชิงเทราเอง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นรถของใคร แต่แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุเองเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ และไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน

ขณะเดียวกันในวันนี้ผู้สือข่าวได้รับการประสานติดต่อจากญาติของผู้ก่อเหตุ ว่าภายหลังจากก่อเหตุ ตัวของผู้ก่อเหตุได้เดินทางหลบหนีไปบ้านญาติ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยนายเอฟ เป็นญาติกันกับนายบาสผู้ก่อเหตุ มีความสนิทสนมกันในวัยเด็ก พอโตมาก็แยกกันไปใช้วิถีชีวิต เล่าว่าส่วนตัวรู้สึกกังวลใจ กังวลว่าผู้ก่อเหตุจะไปฆ่าปิดปากแม่ของตน เพราะว่าแม่ของตนรู้ข้อมูลเยอะ และเมื่อวานนี้ตอนที่ตนโทรศัพท์ไปสอบถามแม่นั้นก็ได้พูดคุยกับตัวผู้ก่อเหตุ เขาบอกว่าจะหนีไปจ.นครนายก แต่ที่จังหวัดนั้นไม่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้องใครใดๆ และตนก็ได้ถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงก่อเหตุเขาก็เงียบไม่ตอบ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นปัญหายาเสพติด เพราะผู้ก่อเหตุติดยาเค เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาหนี้สิน ส่วนประวัติการเล่นพนันออนไลน์นั้นตนไม่แน่ใจ และตนจึงได้ถามนายบาส ต่อว่าจะหนีหรือจะมอบตัว เขาตอบว่าจะหนี ตนก็เลยบอกว่าถ้าจะหนีก็หนีไปเลยตอนนี้ และเขาก็ติดรถออกไป และในวันที่หนีออกไปก็ติดกระเป๋าซึ่งมีทองของกลางออกไปด้วยทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็อยากให้เขามอบตัวไม่อยากเห็นข่าวที่มันเลวร้ายไปกว่านี้ 

จากนั้นผู้สือข่าวได้เดินทางต่อมายังบ้านพักของนายบาส ที่สุเหร่าซีรอ ซึ่งไม่พบแม่ของนายบาสอยู่ เนื่องจากไปทำงาน จึงได้พูดคุยกับญาติของนายบาสอีกคน โดยเด๊ะเล่าว่าภายหลังจากบาสก่อเหตุชิงทองเสร็จแล้ว ก็กลับมาที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปอีกรอบ โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์คันก่อเหตุไปจอดไว้ และต่อแท็กซี่ไปไหนสักที่เพื่อใช้รถยนต์ หนีต่แไปที่บ้านญาติ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเราก็ถามกับตัวบาสว่าจะมอบตัวไหม หากจะมอบตัวก็จะพามามอบ แต่ถ้าจะหนีก็อยู่ที่นี่ไม่ได้  ตอนนี้ไม่รู้ว่าหนีไปอยู่ไหนแล้ว แม่ของเขาก็เครียดเป็นห่วงเขาอยากให้มอบตัว อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าอยู่ไหน จะหนีไปได้สักกี่วัน มองแล้วไม่น่าจะรอด 

เด๊ะ ยังบอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน บางครั้งบาสก็เอารถน้องไปขับส่งอาหารบ้าง ซึ่งเขามีพฤติกรรมติดยาเคหนัก เพราะน้องชายเขาให้ข้อมูลมา แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุให้ถึงขั้นต้องไปปล้น ปกติเขาจะมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยขโมย ขโมยเพียงแต่ของคนในบ้านไม่ได้มากมาย เราก็ไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะเป็นคนในบ้านก็คิดว่าเขาจะสำนึก จนกระทั่งมามีเหตุปล้นร้านทอง 

ส่วนเรื่องประเด็นค้ายาเสพติด ปัจจุบันไม่มี แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนๆพูดกันบ้าง เขาไม่ได้ไปเกเรเมาเหล้าที่ไหน ได้ยินมาจากเพื่อนเขาว่า เขาติดหนี้เยอะ เล่นพนันออนไลน์ แล้วก็เชื่อว่ากลุ่มเพื่อนน่าจะรู้ ก่อนเกิดเหตุก่อนออกไปก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมอะไรให้สงสัย มีเพียงผิดปกติที่มาล็อคประตูหน้าบ้าน ซึ่งปกติเราจะเปิดโล่งเพราะเราต้องขับรถมอเตอร์ไซค์เข้าออกอยู่เป็นประจำ เราก็ยังแอบคิดอยู่ว่าไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า ทำไมถึงต้องล็อคบ้าน ส่วนจะไปกู้หนี้นอกระบบมาหรือไม่นั้นอันนี้ไม่รู้ ก็อยากให้เขามอบตัว หนักจะได้กลายเป็นเบา ก็เข้าสู่กระบวนกระบวนการตามกฎหมาย เพราะเขาก่อเหตุไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ