เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.ค.67 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถนนประชาอุทิศแขวงบางมดเขตทุ่งครุ กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.สมหญิง(นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาหญิง ปี 4 ที่ถูกรุ่นพี่ ปี 7 ที่เป็นพี่รหัส ชักชวนไปห้องพักย่านราษฎร์บูรณะก่อนชักชวนดื่มเหล้าแล้วก่อเหตุอนาจาร มาส่งให้กรรมการสอบข้อเท็จริง ของทางมหาวิทยาลัยทำการสอบปากคำอีกครั้ง

จ่าคิงส์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้พาน้องผู้หญิงนักศึกษาคนนี้เข้าขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว หลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยฯ ได้โพสต์ประกาศต่อสาธารณะ ว่ามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ 

ก่อนจะได้รับการติดต่อประสานมาจากน้องนักศึกษาผู้หญิงว่าทางมหาวิทยาลัยเรียกให้เธอและ นักศึกษาชายพี่รหัส ซึ่งเป็นคู่กรณีก่อเหตุอนาจารเธอมาพบกับกรรมการสอบข้อเท็จจริงในวันนี้เวลา 10.00 น. ผมเห็นว่าน้องต้องมาคนเดียวจึงได้มาร่วมสังเกตการณ์อยู่ภายนอก มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพื่อติดตามผลว่าทางมหาวิทยาลัยจะให้ความเป็นธรรมกับน้องผู้หญิงรายนี้หรือไม่ อย่างไร


สำหรับเรื่องนี้ตนเข้าใจทางสถาบันฯ อย่างดี อยากจะให้ทาง มหาวิทยาลัย ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ถ้าเรื่องนี้จบกันได้ด้วยดีก็อยากจะให้จบ เพื่ออนาคตของทั้งสองคน ก็ขอฝากไปทางมหาวิทยาลัยด้วย ว่าอยากจะให้เรื่องนี้จบอย่างไรจะได้เป็นอุทาหรณ์ แก่รุ่นพี่รุ่นน้องที่จะเข้ามาศึกษายังมหาวิทยาลัยแห่งนี้ต่อไป

น.ส.สมหญิง กล่าวว่ากรรมการฯ ของทางมหาวิทนาลัยเคยเรียกตนมาสอบถามแล้ว 1 ครั้ง แต่แยกสอบกับผู้กระทำผิด แต่รอบนี้เรียกมาให้ปากคำ พร้อมกันกับผู้กระทำผิด ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆทางอาจารย์บอกว่าจะเรียกมาสอบเป็นเคสๆ ไป ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานกันอยู่ ต่อก็ถามถึงผลกระทบหลังจากที่ไปร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม น.ส. สมหญิง กล่าวว่า ไม่ มีผลกระทบอะไรเพิ่มเพราะว่าในเรื่องนี้ทุกคนก็รู้หมดแล้วในเรื่องนี้ ต่างคนต่างก็เห็นใจกันและกัน ไม่มีใครคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นเรื่องไม่ดี มีแต่ให้กำลังใจและบอกว่าให้ต่อสู้นะ

สำหรับคนที่เข้ามาแสดงความเห็นในประกาศของทางเพจมหาวิทยาลัยนั้นตนคิดว่า เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย และก็ไม่ควรเกิดขึ้นแก่ใครทั้งนั้นด้วย ต้นคิดว่าคนที่เข้ามาคอมเม้นต์ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่จบไปแล้วเข้ามาแสดงความเห็นน่าจะไม่พอใจ กันเป็นอย่างมากที่เกิดเหตุขึ้นในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ต่อข้อถามถึงทางด้านผู้ปกครองครอบครัวรับทราบเรื่องราวเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วหรือไม่ นางสาวสมหญิงกล่าวว่าทางผู้ปกครองทางบ้านทราบเรื่อง หมดแล้วแต่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทางบ้านตนอยากให้เรียนจบอย่างไม่มีปัญหาในการให้ถ้อยคำกับกรรมการวันนี้ก็จะมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการเผชิญหน้ากันกับพี่รหัส ส่วนอาจารย์คนที่ไปช่วยไกล่เกลี่ยให้กับพี่รหัสที่สน. ราษฎร์บูรณะวันนี้ ทางมหาวิทยาลัย ไม่ได้เรียกมาด้วยในการเผชิญหน้าวันนี้ถ้าพี่รหัสท่านนี้ ยอมรับผิด และสามารถปรับปรุงตัวได้ตนก็ โอเค. เพราะคนเรามีความผิดพลาดกันได้ ถ้าเค้ารับปากว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ก็เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก

สิ่งที่ตนออกมาเรียกร้องในวันนี้เพื่อที่จะต้องการให้เขารู้ตัวว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น ไม่ถูกต้อง เค้าควรจะรู้ตัวเองและออกมาขอโทษ จะเป็นสิ่งที่ดี

สำหรับผู้เสียหายรายอื่นอีกแปดถึงเก้าคนนั้นมีการเปิดเผยตัวตนแล้วว่าได้รับความเสียหายจากพี่รหัสตนจริง ส่วนคนอื่นๆ ไม่กล้าที่จะแสดงตัวออกมาเป็นผู้เสียหาย ซึ่งทางจ่าคิงส์ กล่าวทิ้ยท้ายว่า มีนักศึกษาหญิงที่ร้องขอจ่าคิงส์ช่วยมาเพียงรายเดียว คนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการติดต่อแค่อย่างใด

หลังจากนั้น จ่าคิงส์ ได้พา น.ส.สมหญิง ข้ามถนนพุทธบูชาไปส่งยังประตู 3  ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้เข้าไปให้ถ้อยคำกับกรรมการของทางมหาวิทยาลัยฯ ต่อไป