การประกาศ อำลาตำแหน่งกุนซือของ "แกเร็ท เซาท์เกต" หลังพาทีมชาติอังกฤษไปไม่ถึงฝัน แพ้ “สเปน” ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 2024 พร้อมยุติบทบาทนายใหญ่ทัพ “สิงโตคำราม” ที่ทำมานาน 8 ปี

โดยตลอดระยะเวลา 8 ปี "แกเร็ท เซาท์เกต" นำทัพ "สิงโตคำราม" ลงเตะ 102 นัด ชนะ 61 เสมอ 24 แพ้ 17 แม้เก็บชัยชนะสูงถึง 59.80 % แต่ทีมชาติอังกฤษในยุค "แกเร็ท เซาท์เกต" กลับไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ ดีสุดคือการได้รองแชมป์ ยูโร 2020 และ 2024 ส่วนฟุตบอลโลก ปี 2018 ได้อันดับ 4 ขณะที่ฟุตบอลโลก ปี 2022 ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

สำหรับ ”แกเร็ท เซาท์เกต” เคยลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ในตำแหน่งกองหลัง มา 57 เกม ซึ่งหลังจากแขวนสตั๊ด และ ได้เริ่มเส้นทางการเป็นโค้ชให้กับทีม “มิดเดิ้ลสโบรช์” ในปี 2006-2009 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งคุมทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ในปี 2013 ก่อนได้รับการแต่งตั้งคุมทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2016 แทนที่ “แซม อัลลาไดซ์” ที่ถูกปลดจากเรื่องอื้อฉาว 

”แกเร็ท เซาท์เกต” เกิดในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1970 ที่วอตฟอร์ด ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอนุบาลแพดเนลล์ที่คาวเพลน แฮมป์เชอร์ แล้วเรียนต่อที่โรงเรียนอนุบาลพาวน์ดฮิลล์ (Pound Hill Junior School) และโรงเรียนเฮเซิลวิกที่ครอวลีย์ เวสต์ซัสเซกซ์ ขณะยังเป็นนักเรียน เขาสนับสนุนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและฮีโรฟุตบอลของเขาคือ “ไบรอัน ร็อบสัน”

”แกเร็ท เซาท์เกต” เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ และเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ โดยทำทีมชาติอังกฤษเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ได้อันดับ 4 และนับเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนแรกในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งในครั้งนั้นอังกฤษก็ได้อันดับ 4 เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังทำทีมชาติอังกฤษคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศทั้งในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 และ 2024 อีกด้วย

การโบกมือลาของกุนซือของ "แกเร็ท เซาท์เกต" ในครั้งนี้ ส่งผลให้ “เอฟเอ” ต้องสรรหา “กุนซือ” คนใหม่ เข้ามาแทนที่ โดยมีตัวเลือกที่น่าสนใจ คือ “แกรม พ็อตเตอร์” โดยเวลานี้ “พ็อตเตอร์” ยังว่างงานนับตั้งแต่ถูก “เชลซี” ตะเพิดไล่ออก เมื่อเดือนเม.ย.ปีก่อน หลังสร้างชื่อกับ “ไบรท์ตัน” ได้อย่างยอดเยี่ยม    “เอ็ดดี ฮาว” นายใหญ่ทีม “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่มีข่าวลือว่า “เอฟเอ” สนใจดึงเขาไปคุมทีม “สิงโตคำราม” กระนั้นก็ดี ในวัย 46 ปี   “เอ็ดดี ฮาว” อาจลังเลที่จะทิ้งงานระดับสโมสรไปจับงานระดับทีมชาติเนื่องจากเจ้าตัวน่าแสดงท่าหวังสานต่อโปรเจกต์สำคัญกับ เดอะ “แม็กพายส์” ต่อไปมากกว่า

“สตีเวน เจอร์ราร์ด” ขวัญใจ “เดอะค็อป” ที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย หลังสร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมสมัยคุมทีม “เรนเจอร์ส” ในปี 2018 ก่อนพาทีมคว้าแชมป์ลีกสกอตต์ได้ในอีกสามปีต่อมา ซึ่งปัจจุบัน “สตีวี่ จี” หันไปลิ้มลองความท้าทายในตะวันออกกลาง ด้วยการรับงานคุมทีม “อัล เอตติฟาค” ในลีก ซาอุดิ อาระเบีย และยังต้องรอดูกันว่าเจ้าตัวจะทำงานใน โปรลีก ได้นานแค่ไหน

การควานหา “กุนซือ” ในครั้งนี้ คงเป็นงานหินอย่างสุดๆ และหากใครรับตำแหน่งนี้ รับรองได้เลย ต้อง “กดดัน” ๆแน่ และจะเป็นใครนั้น คงอีกไม่นาน “แฟนบอล” คงได้ยลโฉมหน้ากันเร็วๆนี้