“ชนินทร์”ยันงบฯเพิ่มเติมปี 67 “รดน้ำหน้าบ้านพร้อมกันทั่วประเทศ” ร่วมปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่สังคมดิจิทัล

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุน ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่างๆ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพราะ ประเทศไทยตอนนี้โตต่ำกว่าศักยภาพ และโตอย่างกระจุกตัว หากไม่เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน สถานการณ์จะแย่ลงเรื่อย ๆ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยสื่อสารมาโดยตลอด ว่าทุกวันนี้ประชาชนขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินในกระเป๋า หนี้ครัวเรือนสูง เพราะ “สถานการณ์เศรษฐกิจฝืดเคือง” ดังนั้น เพื่อให้เศรษฐกิจในระยะสั้นหรือระยะเร่งด่วนดีขึ้น จึงจำเป็นต้องมีโครงการเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อเป็น ตัวจุดสตาร์ท กระตุกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

โครงการ Digital Wallet นี้จะเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความพร้อมสู่การเป็นสังคมดิจิทัล ผ่านการขอความร่วมมือประชาชนทุกพื้นที่ ร่วมเป็นกลไกในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากสภาวะที่ติดหล่มอยู่โดยช่วยกันนำเงินดิจิทัลที่ได้จากรัฐบาลนี้ ไปใช้ในภูมิลำเนาของตน ให้สนามหญ้าหน้าบ้านที่แห้งเหี่ยวอยู่ เขียวพร้อมกันทุกครัวเรือนทั่วประเทศ

นายชนินทร์ กล่าวว่า เป้าประสงค์ของโครงการนี้ ไม่ใช่การแจกเงินแบบประชานิยม หรือ สวัสดิการประชาชนเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่คือ การกระตุกสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฝืดเคืองอยู่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแบบถ้วนหน้า โดยเงิน 10,000 บาทต่อคนนี้ จะเปิดกว้างให้ประชาชน ใช้จ่ายอย่างอิสระ ไม่จำกัดแค่ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก ร้านชุมชน หรือหาบเร่แผงลอย โดยไม่ฝืนพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชน และสร้างความพร้อมให้สังคมไทยสู่การปรับเปลี่ยนสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผ่าน “application ทางรัฐ” ซึ่งจะเป็น gateway ขนาดใหญ่ หรือ “SUPER APP” ที่ผนวกรวมทุกการบริการของภาครัฐในอนาคต หรือเรียกว่าเป็น one stop service ของระบบรัฐบาลดิจิทัล หรือ e-government ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าพัฒนาอยู่ ซึ่งแอปนี้จะเป็นแอปกลางแอปเดียวเพื่อลดปัญหาการสับสนของประชาชน

“ขอพี่น้องประชาชนติดตามการลงคะแนนวันนี้ เพราะผมเชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นแก่ความทุกข์ร้อนของประชาชน จะร่วมกับรับหลักการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้ ให้มีงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป” นายชนินทร์กล่าว