เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุฆาตกรรม 6 ศพที่โรงแรมใจกลางกรุง จะกระทบด้านการท่องเที่ยวหรือไม่ ว่า ช่วงสายวันเดียวกันนี้ ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ติดตามและอำนวยความสะดวกทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่ ผู้ที่เกี่ยวข้อง สันนิษฐานว่าน่าจะมาสาเหตุส่วนตัว และยังมีเอกสารหลายอย่างที่ส่งให้สถานทูตแปลอยู่ วันนี้คงมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ตนเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะเป็นการกระทำที่เกิดจากเรื่องส่วนตัว เรื่องบุคคล เมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้ว ตนจะจัดแถลงข่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิมและยิ่งขึ้นกว่าเดิม ย้ำว่าไม่น่าจะกระทบการท่องเที่ยว หลายหน่วยได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงบางส่วนออกมาแล้ว คิดว่าจะทำให้ลดความกังวล และ 1-2 วันนี้จะมีการแถลงรวมทุกหน่วยเพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางภาคธุรกิจได้มีการพูดคุยถึงความกังวลหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่ประชุมกับเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว เราเน้นที่การรักษาความปลอดภัย มีการนำระบบเอไอเข้ามาใช้
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ช่วง 1-2 เดือนนี้ จะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลายอย่าง เช่น การสนับสนุนการท่องเที่ยวประเพณีต่าง ๆ และการจัดมวยใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ นครราชสีมา ลพบุรี และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของมวยไทยที่มีชื่อ เหล่านี้เป็นการต่อยอดการท่องเที่ยวให้ครบวงจร
เมื่อถามถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยฟรีวีซ่า 93 ประเทศ ตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวอย่างไร นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้มากขึ้น เพราะจะเข้าออกสะดวก และยอมรับว่าการที่เราอำนวยความสะดวกเข้าเมืองมากก็อาจจะมีบางอย่างแทรกซ้อนเข้ามา แต่ก็ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมายที่รัฐบาลให้เราจัดหารายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยว 36.7 ล้านคน ทำได้ และเมื่อเรากระจายกิจกรรมการท่องเที่ยวไปแต่ละชุมชน จะทำให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวจะเป็นการแก้จนเด่นชัดที่สุด