วันที่ 17 ก.ค.67 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการพบศพชาวต่างชาติในโรงแรมหรู่ย่านราชประสงค์ ฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้อะไรหรือไม่ว่า คงต้องประเมินก่อนว่า เป็นเรื่องระดับความมั่นคง หรือเรื่องส่วนตัว ที่อาจมีความขัดแย้งเรื่องหนี้สินเงินทอง แต่ต้องยอมรับว่า สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญ เนื่องจากหลังจากนี้จะมีการประชุมของรัฐมนตรีจากประเทศรัสเซีย และหากใครอยู่ในวงการการเมือง คงทราบว่าโรงแรมดังกล่าว เป็นที่พักอาศัยของนักการทูตหลายประเทศ ดังนั้นเข้าใจว่าคงมีเรื่องละเอียดอ่อน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เมื่อสถานที่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ อาจทำให้มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผนวกกับที่มีการเสียชีวิตอย่างปริศนา จึงอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ในเรื่องความปลอดภัยของประเทศ แต่คิดว่าต้องให้เวลากับฝ่ายความมั่นคง ในการตรวจสอบ หากเป็นเรื่องที่จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราก็ต้องไปมองว่า หน่วยข่าวกรองของเรา สามารถทราบล่วงหน้าได้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่หากเป็นเรื่องระหว่างบุคคล ก็เข้าใจว่าไม่สามารถสามารถทราบได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นโจทย์ของรัฐบาล เนื่องจากเป็นข่าวใหญ่ ไม่ใช่แค่ภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว และเราทุกคนที่ต้องช่วยฟื้นฟูความมั่นใจ โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว ที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี และมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก ช่วยกันทำให้การท่องเที่ยวไม่ถูกทำลายลง
เมื่อถามว่า มองว่าตำรวจรีบแถลงผลการสอบสวนไปหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เวลาเร็วหรือช้า เป็นประเด็นหนึ่ง แต่ต้องไปดูว่า เขาได้แค่ข้อเท็จจริงอะไรมา ถ้าเป็นการปิดคดีเร็วเพื่อให้จบ แล้วขาดความโปร่งใส หากมาทราบภายหลังว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น กระบวนการยุติธรรมจะถูกทำลายป่นปี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสังวรเอาไว้ แต่หากเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามนั้น ก็ถือว่าตำรวจทำงานได้ไว ดังนั้น เรื่องนี้มีเหรียญสองด้าน อยู่ที่ว่าคดีนี้มีความชอบมาพากลระดับไหน หน้าที่ขององค์กรตำรวจ คือต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ ไม่ใช่ทำให้เป็นเรื่องลับลมคมใน ไม่เช่นนั้น จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียศรัทธาเรื่องกระบวนการยุติธรรม และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้แน่นอน