วันที่ 17 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.50 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์  โรม  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญยุติการไต่สวนคดียุบพรรคก้าวไกล และนัดลงมติพร้อมฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 7 ส.ค.นี้กังวลหรือไม่ ว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาโดยตลอด คือเราคิดว่าการเปิดไต่สวนจะนำข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล เข้าสู่การพิจารณาของศาล ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่การที่จะทำให้คดีนี้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด เมื่อวานนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้แถลงข่าวว่า มีความไม่ชอบมาพากลอย่างไรในเรื่องพยาน และเรามีข้อโต้แย้งอย่างไรในปัญหาของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจมา ซึ่งเราพบว่ามีกระบวนการในการเร่งรัด และมีความสุ่มเสี่ยงมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการเร่งรัดนี้ ก็ทำให้พรรคก้าวไกลไม่มีสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จากที่เห็นเอกสารข่าวในวันนี้ แน่นอนว่าเราเองคงต้องบอกตรงๆ ว่า การต่อสู้คดีของเราที่ต้องการจะนำพยานหลักฐานเข้าไปสู่กระบวนการ การพิจารณาของศาล คงทำไม่ได้ ยอมรับว่า คงทำให้การต่อสู้คดีของเรายากขึ้น อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถบอกได้ว่าผลของคำวินิจฉัยของศาลในวันที่ 7 ส.ค. จะเป็นอย่างไร แต่เราหวังว่า ผลตรงนี้จะสร้างความยุติธรรมให้กับพรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่าการนัดหมายในวันที่ 7 ส.ค.คิดว่าเร็วเกินไปในการเตรียมการหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้ไปดูว่าฉุกละหุกหรือไม่ แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือเรื่องของกระบวนการมากกว่า เนื่องจากพยานปากสำคัญของเราอย่างนายสุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน ที่เราต้องการให้ขึ้นเป็นพยานของพรรคก้าวไกล เป็นพยานปากสำคัญมาก เนื่องจากท่านเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น ตนคิดว่าเนื้อหาสาระแบบนี้ กระบวนการแบบนี้ พยานปากสำคัญแบบนี้ เราไม่สามารถมองข้ามได้เลย ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ เราเองก็อยากให้กระบวนการดำเนินไปในลักษณะที่ฟังกันทุกฝ่าย และรับฟังโดยละเอียด แต่แน่นอนว่า เมื่อกระบวนการไม่เป็นไปอย่างที่เราหวัง ก็คงต้องกลับไปคุยกันในพรรค ซึ่งตนเข้าใจว่าภายในพรรคเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน 

" ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องการล้มล้างการปกครอง ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ต้องการเซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่มีการกล่าวหา เราเป็นพรรคการเมืองที่เคารพในระบอบประชาธิปไตย ต้องการเห็นประเทศของเราเป็นประชาธิปไตย ด้วยจุดมุ่งหมายเหล่านี้ เรายืนยันว่า เราไม่ได้ต้องการทำลายการปกครองแน่นอน" นายรังสิมันต์ กล่าว

สส.พรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต้องยืนยันว่า คำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ไข มาตรา 112 ไม่ได้เลย แต่จะต้องเป็นการแก้ไขที่ถูก ต้องซึ่งก็มีกระบวนการและขั้นตอนของมันอยู่ และคำวินิจฉัยของศาลในรอบที่แล้ว ก็คือสั่งให้ยุติการกระทำ ซึ่งจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการกระทำอะไรเพิ่มเติม ตนเชื่อว่าคำวินิจฉัยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ประชาชนทุกคนคงเฝ้ารอ และต้องดูว่าสุดท้ายจะสอดรับกับเหตุผลที่ยอมรับกันได้มากแค่ไหน ทั้งนี้ กระบวนการต่อไปของพรรคภายหลังวันที่ 7 ส.ค.ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไร แต่คิดว่าเดี๋ยวคงจะต้องมีการคุยกัน เดาว่าหัวหน้าพรรคก็คงเพิ่งทราบ จึงยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ และเชื่อว่าจะมีการชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง