ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER พลังแห่งการขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศและปลูกจิตสำนึกให้ เยาวชน  ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะมวยไทย  ณ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค
         

วันที่ 16 ก.ค. 67  เวลา 10.00 น. ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานเปิดโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER พลังแห่งการขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายเดชาธร เชาว์เลขา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวต้อนรับ  นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยมี ผู้บริหารกรมพลศึกษา ผู้บริหารจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ ผู้เข้าประกวด สื่อมวลชน  ร่วมงานเปิดโครงการฯ น. ณ ชั้น 2 เดอะฮอลล์ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
         

ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เปิดเผยว่า  การประกวดภายใต้โครงการ MUAYTHAI SOFT POWER พลังแห่งการขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 16 – 18 กรกฎาคม 2567 ผมต้องขอแสดงความชื่นชมคณะกรรมการ ดำเนินงานทุกฝ่ายและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ช่วยกันดำเนินการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทย ตามนโยบายของกรมพลศึกษา ส่งเสริมสนับสนุน อนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทย อันเป็นมรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยให้สืบทอดสู่รุ่นต่อไป เชื่อว่าทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ ย่อมเป็นผู้มีจิตวิญญาณของมวยไทยอย่างเต็มเปี่ยม  ขอให้เรามาร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ สืบสานและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย  เป็นการต่อยอดให้กีฬามวยไทยขยายไปสู่ระดับนานาชาติ ทั้งยังเป็นการกระตุ้น การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport tourism) และพลังขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม (Soft Power) ตามนโยบายรัฐบาลที่ว่า “มวยไทย มรดกไทย มรดกโลก”
         

นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมการประกวดนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศและปลูกจิตสำนึกให้ เยาวชน ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะมวยไทย ด้วยกรมพลศึกษา ได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา อนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้มีเยาวชน ประชาชน สมัครเข้าร่วมการแข่งขันอย่างมากมาย  โดยในรอบคัดเลือก (รอบ audition) มีทีมที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 3 ประเภท ดังนี้ ประเภทคีตะมวยไทย จำนวน 62 ทีม  นักกีฬา  744 คน ประเภทคีตศิลป์มวยไทย จำนวน 30 ทีม นักกีฬา 360 คน ประเภทไหว้ครูและทักษะมวยไทย จำนวน 60 ทีม  นักกีฬา 300 คน