วันที่ 16 ก.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการแก้ไขสัญญาเรือดำน้ำเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์จีน รุ่น CHD620 ได้มีการพูดคุยกับนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่เนื่องจากยังติดอยู่ในขั้นตอนคณะทำงานนายกฯ ว่า ยังเลย ว่าจะคุยกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ก่อน แต่วันนี้นายสุทินลาประชุม ครม. เพราะปวดฟัน 

 

เมื่อถามว่า มีรายงานว่ารัฐบาลอยากจะได้การแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) จากจีนมากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อันนั้นก็เป็นหนึ่งในข้อต่อรอง ไม่ใช่แค่เรื่องเรือดำน้ำอย่างเดียว แต่รวมถึงโครงการเครื่องบินรบด้วย ระหว่างเครื่องบินGripen E  จากสวีเดน และ F-16 Block 70 จากสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องมีการพูดคุยเรื่องการตอบแทนการค้า (Offset Policy) ที่ไม่ใช่แค่ราคาอย่างเดียว ไม่อยากจะมาคุยเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ การพูดคุยเรื่องการอนุมัติ เอาหรือไม่เอาจะต้องครบและสรุปเลย ซึ่งเมื่อวันที่ 15ก.ค. ตนได้โทรไปพูดคุยกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ว่าเรื่องของเครื่องบิน F-16 Block  70 ที่จะเสนอมาก็อยากให้เสนอ Offset Policy พร้อมกับราคามาด้วย เพื่อเตรียมพิจารณาคู่กับกับ Gripen E เพื่อตัดสินใจ

 

เมื่อถามว่า ยังคงให้เวลาต่อไปใช่หรือไม่ ภายหลังกองทัพอากาศได้ส่งผลสรุปคะแนน Gripen E ชนะ F-16 มาแล้ว นายกฯ  กล่าวว่า ผมคิดว่ายังสรุปไม่ได้ เพราะยังไม่มี Offset Policy มา ก็พยายามทำให้เร็วที่สุด  ดังนั้นทั้ง 2 บริษัทก็ต้องเต็มที่ เพราะไม่ใช่เงินเล็กๆน้อยๆ ซึ่งต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนให้คุ้มค่าที่สุด ก็ขอความเห็นใจแล้วกันตรงนี้ ว่ามันต้องดูให้ดี 

 

เมื่อถามว่า มีการกำหนดระยะเวลาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมไม่ทราบจริงๆ ในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนขนาดไหน แต่ยืนยันว่าหากยังไม่มีความพร้อม ข้อมูลไม่ครบ ก็ไม่ตัดสินใจ

 

เมื่อถามว่า กองทัพอากาศมีอำนาจในการตัดสินใจจะซื้อเครื่องบินรบแบบใด ยืนยันได้หรือไม่ว่าทางรัฐบาลจะไม่ล้วงลูกไปเปลี่ยนให้ซื้อตามแบบที่รัฐบาลอยากได้ แต่จะเป็นการพิจารณาและคิดร่วมกัน นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน เราทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ซึ่งทางกองทัพอากาศก็เข้าใจเรื่อง Offset Policy ตนไม่ไปก้าวก่ายเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอยู่แล้ว