ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

1. จับยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ

กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 3 ราย คือ 1. MR.ABDULLAHI อายุ 27 ปี สัญชาติเดนมาร์ก 2. MR.MOHAMED อายุ 25 ปี สัญชาติบริติช และ 3. MR.SAEED อายุ 24 ปี สัญชาติบริติช ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทำความผิดฐาน "ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ ให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร" โดยจับกุม MR.ABDULLAHI ที่หน้าโรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี , MR.MOHAMED และ MR.SAEED จับที่ POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธิ์ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นนักเทรดชาวอังกฤษ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2567 เวลาประมาณ 02.00 น. ว่า ถูก MR.ABDULLAHI พร้อมกับพวกรวม 5 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายและเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ได้แก่ นาฬิกา ยี่ห้อ Audemars piguet 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ Rolex 1 เรือน และทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท เหตุเกิดที่ ห้องพักในแมนชั่นย่าน ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติออกหมายจับ นาย MR.ABDULLAHI , MR.MOHAMED , MR.SAEED , MISS SUMYA อายุ 21 ปี สัญชาติบริติช และหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ กก.2 บก.สส.สตม. จึงได้นำข้อมูลผู้ต้องหาบันทึกไว้ในบัญชีเฝ้าดูในระบบสารสนเทศ ตม. และทำการสืบสวนติดตามหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย จนทราบว่า MR.ABDULLAHI , MR.MOHAMED และ MR.SAEED หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.คลองตัน ไปสืบสวนหาตัว จนกระทั่งจับกุมทั้ง 3 คนได้ดังกล่าว

นอกจากนี้ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ยังได้ตรวจพบว่า MISS SUMYA ผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางพบช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงสุญญากาศ ขนาด 500 กรัม จำนวน 50 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 25 กิโลกรัม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร และ ป.ป.ส. ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมในความผิดฐาน พยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 มาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน จะได้ดำเนินการตามหมายจับต่อไป

2. รวบแก๊งชาวเมียนมาอ้างเป็นนักธุรกิจซื้อขายทอง หลอกลวงเหยื่อให้ร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้าน

กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม MR.U WIN (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ลงวันที่ 14 พ.ค.2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง" นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจับกุมได้บริเวณหน้าโรงแรมย่านถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากมีแก๊งชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR.U WIN (นามสมมติ) , MR.THAW TE (นามสมมุติ) , MRS.CHO LIN อ้างว่าเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคำในประเทศเมียนมา มีฐานะร่ำรวยมาก ต้องการซื้อทองคำจำนวนมาก เพื่อนำไปขายต่อ ได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหาย พร้อมทั้งยืนยันให้ความเชื่อมั่น หลังจากนั้นได้หลอกลวงให้ผู้เสียหาย เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการซื้อทองคำจากคลังทองคำที่ห้างทองในย่านเยาวราช และเพื่อเป็นหลักประกันว่ามีทองคำในคลังทองคำอยู่จริง MR.U WIN กับพวกได้หลอกลวงผู้เสียหายให้วางเงินเป็นหลักประกันทองคำดังกล่าว และยืนยันว่าหากคลังทองคำขายทองคำให้จะคืนเงินที่ผู้เสียหายวางเป็นหลักประกันคืน จนผู้เสียหายหลงเชื่อส่งมอบเงินหลักประกันให้จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,135,000 บาท

ภายหลังคลังทองคำตกลงจะขายทองให้กับกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏว่า MR.U WIN กับพวก ไม่มีเงินซื้อทองคำ และไม่คืนเงินที่ผู้เสียหายได้วางไว้เป็นหลักประกัน ผู้เสียหายทวงถาม ให้คืนเงิน โดยไม่สามารถติดต่อ MR.U WIN กับพวก ได้อีกเลย ซึ่งทราบว่ากลุ่มแก๊งชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ได้หลบหนีเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลแขวงดุสิตออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 3 ราย กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จึงได้ประสานข้อมูลกับ สน.พญาไท เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบว่า MR.U WIN หนึ่งในแก๊งชาวเมียนมาดังกล่าว ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้หลบหนีหมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ จ.นนทบุรี และในท้องที่ บก.น.2 จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป