คกก.ชุดใหญ่”ดิจิทัลวอลเล็ต”ถกเดือด! “นายกฯ” บอกเคลียร์ทุกรายละเอียดชัดขึ้น  ปฏิเสธตอบคลังไม่ใช่เงิน“ธ.ก.ส.” มอบ “จุลพันธ์” แจงแหล่งที่มาเงินทุกประเด็น พร้อมเปิดลงทะเบียน"ดิจิทัลวอลเล็ต" ได้ 1 ส.ค.นี้ การันตีปชช.ไม่คอยเก้อ 

ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ก.ค.67  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 4/2567 พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ,นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ,นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ,นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง


ภายหลังการประชุม นายเศรษฐา แถลงว่า ผลการประชุมวันนี้ยาว มีเรื่องของรายละเอียดที่เรามาชี้แจงทำให้กระจ่างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสินค้าหรือหลายๆ อย่าง ซึ่งนายจุลพันธ์จะเป็นผู้แถลง ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีความชัดเจนและได้ผลสรุปก่อนวันที่ 24 ก.ค.นี้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า นายจุลพันธ์จะเป็นคนแถลง เมื่อถามว่าจากการประชุมวันเดียวกันนี้นายกฯได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี เป็นการตอกย้ำเรื่องความชัดเจนและเรื่องการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งสื่อก็เห็นว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เริ่มมีการออกมาแอบอ้างเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยอ้างว่าเป็นลิ้งค์ของรัฐบาล ตรงนี้ได้สั่งให้มีการดำเนินการอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ ซึ่งทางภาครัฐคงต้องมีการแจ้งว่าเป็นเรื่องของการแอบอ้าง คอยฟังประกาศจากรัฐบาลอย่างเดียวดีกว่า เมื่อถามว่า แหล่งเงินของดิจิทัลวอลเล็ตได้ซักกระทรวงการคลังหรือไม่ว่าทำไมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเกี่ยวกับแหล่งเงิน ทำไมถึงไม่เอาเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้วกลับไปใช้งบปี 67-68 นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีการชี้แจงซึ่งตนได้เรียนไปแล้ว

เมื่อถามอีกว่า อยากให้นายกฯพูดในฐานะที่เป็นผู้นำ นายเศรษฐา นิ่งสักครู่พร้อมหันหน้าไปอีกทาง ก่อนกล่าวว่า เรียนไปแล้ว แจ้งไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามความคืบหน้าซุปเปอร์แอป เป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา  กล่าวว่า เดี๋ยว รมช.คลังจะเป็นคนชี้แจง เมื่อถามอีกว่า สามารถที่จะเปิดใช้ทันไตรมาส 4 หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า “ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ” และทำท่าเดินออกจากวงให้สัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า สรุปแล้วแหล่งที่มาของเงินได้ข้อสรุปเรียบร้อยใช่หรือไม่ นายเศรษฐาไม่ตอบพร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”

ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก และ X ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมเปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้


ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตมีมติเห็นชอบโครงสร้างแหล่งที่มาของเงินใหม่ โดยสาเหตุที่มีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากได้ดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานที่ตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปรับลดขนาดโครงการ ยังคงเป้าหมายประชาชนที่ 50 ล้านคนเช่นเดิม ซึ่งจากการดำเนินโครงการของรัฐบาลในอดีตส่วนใหญ่จะพบว่ามีผู้มาลงทะเบียนไม่เกิน 90% ดังนั้นจึงตั้งงบประมาณไว้รองรับที่ 45 ล้านคน หรือคิดเป็นงบประมาณรา 4.5 แสนล้านบาท แต่ทั้งนี้ หากมีประชาชนมาลงทะเบียนน้อยกว่าหรือมากกว่า ก็จะใช้กลไกบริหารงบประมาณเพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอกับโครงการนี้

"จากการพิจารณาแล้วเห็นว่า มีความจำเป็นต้องเตรียมงบประมาณน้อยลง ประกอบกับมีข้อห่วงใยกับการใช้มาตรา 28 และขณะนี้ใกล้สิ้นปีงบประมาณ 67 เริ่มเห็นความชัดเจนของตัวเงิน กระทรวงการคลังและสำนักงานงบประมาณ ได้หารือกัน นำเสนอโครงสร้างกรอบวงเงินใหม่ ซึ่งที่ประชุมให้ความเห็นชอบว่าจะไม่มีการใช้มาตรา 28 โดยจะใช้จากแหล่งเงินงบประมาณ 67 และงบประมาณ 68 โดยมีงบประมาณเพียงพอ และดำเนินการได้ภายในกรอบงบประมาณ"

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า แหล่งที่มาของเงินเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ประกอบด้วย งบประมาณปี 67 มาจากงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ และงบประมาณในการบริหารจัดการทางการคลัง และการบริหารงบประมาณอีก 4.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นงบกลางได้ แต่ไม่ใช่เพียงส่วนเดียว นอกจากนี้ จะใช้งบประมาณปี 68 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท และงบประมาณในการบริหารจัดการทางการคลัง และการบริหารงบประมาณของปี 68 อีก 1.32 แสนล้านบาท โดยยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการงบประมาณ 68 ในกรอบที่ได้รับมา ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่ผูกพันไม่ทัน หรืองบประมาณที่ใช้ยังไม่สำเร็จ และกลไกบริหารงานงบประมาณค่อนข้างหลากหลาย โดยยืนยันว่า งบประมาณที่จัดสรรยังถือว่า สามารถทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตมอบให้กระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่กำหนดประเภทสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ (Negative List) ไม่ว่าจะเพิ่มเติมหรือปรับลด หากมีความจำเป็นตามสถานการณ์ต่อไป แต่จะต้องเสนอที่ประชุมอนุกรรมกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลตอีกครั้ง

"วันนี้ มีข้อเสนอจากบางส่วนงาน ยกตัวอย่างที่ยังไม่ได้คุยกันเช่น สินค้าอาวุธปืน ยุทโธปกรณ์ ยังไม่ได้คิดกันในอนุกำกับฯ ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มต้องพิจารณา เราก็รับข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ไปดู และนำเสนอคณะกรรมการต่อไป" นายจุลพันธ์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ได้มีการพิจารณาตัดสิทธิ์กลุ่มบุคคล และร้านค้าที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการของรัฐในอดีต หรือมีการฟ้องร้องเรียกเงินคืนในอดีตอีกจำนวนหลายหมื่นราย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐาเป็นประธาน เป็นไปด้วยความเคร่งเครียด มีการยกมือทักท้วงและสอบถามรายละเอียดของหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมอยู่เป็นระยะๆ และครั้งนี้เป็นการประชุมที่ยาวนานกว่าปกติ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังประชุม แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ เพียงแค่โบกมือปฏิเสธไม่ตอบคำถามสื่อและรีบเดินขึ้นรถนั่งคู่กับคนขับทันที


ส่วน นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงวงเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ล่าสุดรัฐบาลไม่ได้มีการใช้วงเงินตามมาตรา 28 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงิน 1.723 แสนล้านบาทแล้ว ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุผลว่าวงเงินตามมาตรา 28 ที่รัฐบาลจะใช้นั้นเต็มเพดาน หรือว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณคืนให้กับธ.ก.ส. น้อยจนเกินไป เพราะว่างบประมาณปี 68 รัฐบาลมีการจัดสรรงบประมาณในการจ่ายคืนหนี้ตามมาตรา 28 อยู่พอสมควร และในวันที่รัฐบาลประเมินว่าจะใช้เงินของ ธ.ก.ส.ในโครงการนี้ยังมีพื้นที่กว่า 2 แสนล้านบาท การไม่ใช้เงินธ.ก.ส. จึงไม่ใช่เหตุผลในเรื่องนี้

“การไม่ใช้วงเงินของ ธ.ก.ส.เป็นเหตุผลในเรื่องของข้อกฎหมายที่หากมีการใช้เงิน ธ.ก.ส.ต้องมีการตีความข้อกฎหมาย และเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ถ้ารัฐบาลจะใช้ก็ใช้ได้ แต่รัฐบาลตัดสินใจจะไม่ใช้ เพราะเหตุผลนี้มากกว่า” นายเฉลิมพล กล่าว