“เศรษฐา”ร่วมวงดินเนอร์มื้อเย็น เผยยังไม่มีแนวคิดทาบทาม 'ทักษิณ' นั่งที่ปรึกษา หลังพ้นโทษสิงหาฯ เปิดรับฟังคำแนะนำที่ดี ยึดหลักปชช.ได้ประโยชน์สูงสุด "ภูมิธรรม" เปิดทาง "ทักษิณ" ช่วยงานเพื่อไทยได้ หากพ้นมลทิน ด้าน'วัน' เปิดใจทั้งน้ำตา ยื่น “กกต.”ไขก๊อก 'เพื่อไทย' ยันไม่หน้าด้านอยู่ เลยจุดเคลียร์ใจกันแล้ว พร้อมสังกัดพรรคใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ว่า “ไปครับ” เมื่อถามว่า มีการประสานให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนยืนยันไปแล้วอยากให้ท่านมา แต่ตนไม่ทราบจริงๆว่าท่านจะมาหรือไม่มา อันนี้ก็แล้วแต่ละพรรค เพราะตนไม่ได้เช็กเลยว่าใครมา หน้าที่ของตนคือไปพูดคุยกันว่าใครมีเรื่องไม่สบายใจ หรือจะเสนอแนะอะไร ตนยินดีรับฟังหมด
นายเศรษฐา ยังได้ให้สัมภาษณ์กรณีแนวคิดเชิญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังพ้นโทษในเดือน ส.ค. นี้ มาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำหรือไม่ ซึ่งนายทักษิณระบุหลังเดือน ส.ค. รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ว่า พอดียังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของท่าน และท่านให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไรบ้าง ขอคำถามอีกครั้ง
เมื่อถามย้ำว่า แนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯ มาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำ จะเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันตรงนี้ แต่อย่างที่เคยชี้แจงไปแล้ว ตนได้มีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกฯ หรือผู้นำของประเทศ ไม่ว่าจะใครก็ตามที่มีข้อเสนอแนะที่ดี ตนก็ยินดีรับฟัง
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณระบุในเดือน ส.ค. ผลงานรัฐบาลจะออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น ว่า ก็เป็นความเห็นของนายทักษิณ ต้องไปถามท่านเอง เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่หากนายทักษิณพ้นมลทิน ในเดือน ส.ค.แล้ว จะเข้ามาช่วยงานพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าท่านพ้นมลทินทั้งหมด ก็สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้
นายภูมิธรรม ยังให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยกรณีของ นายวัน อยู่บำรุง อดีต ส.ส.เพื่อไทย ลาออกจากพรรค และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ท้าให้พรรคขับออก หลังนายวันถูกหัวหน้าพรรคเรียกไปตักเตือน จะต้องมีการพูดคุยกันอีกหรือไม่ เนื่องจากวันนี้นายวันจะไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค นายภูมิธรรม กล่าวว่า คิดว่าร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ใหญ่ที่ผูกพันกับพรรคเพื่อไทยมานาน และเป็นที่เคารพนับถือของสมาชิกพรรค กรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่อยากให้มีการพูดกันมากเกินไปในระหว่างที่เป็นปัญหา ตอนนี้จึงไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายไปตามครรลองที่ควรจะเป็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพื่อให้ปัญหาคลี่คลายต้องมีการพิจารณาตำแหน่งให้นายวัน ใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ อยู่ที่ว่าจะคลี่คลายไปอย่างไร เมื่อถามว่า จะต้องไปพูดคุยกับร.ต.อ.เฉลิม หรือไม่ นายภูมิธรรม ถามกลับว่า “ใครจะไปคุย” และว่า ถ้ามีโอกาสมันก็ต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว เพราะการคุยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นญาติพี่น้องและเป็นคนเคารพนับถือ เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง ถ้ามีโอกาสคุยกันได้ก็น่าจะคลี่คลายได้ดี ตนคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แต่คิดว่าหากได้คุยกันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูว่าจะคลี่คลายไปอย่างไร เมื่อถามว่า จะเป็นคนระดับไหนในพรรคที่จะพูดคุย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ทุกระดับพูดคุยได้หมด
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัน อยู่บำรุง อดีต ส.ส.เพื่อไทย ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่อเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง โดย นายวัน กล่าวว่า ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ค.หลังประชุมพรรคเพื่อไทยได้ไปรอพบหัวหน้าพรรค และประโยคแรกที่ได้พูดกับหัวหน้าพรรคว่า วันนี้พี่มามอบตัว ทราบข่าวมาว่าทางหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคไม่สบายใจที่มีภาพของตนอยู่ในวันนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่บ้านของ พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง
"ผมพูดกับหัวหน้าพรรคว่าครอบครัวอยู่บำรุงจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่เคยคิดคดทรยศ ผมอาจจะคิดไม่รอบคอบ กรณีมีภาพของผมหลุดออกไปในวันนับคะแนน จะทำให้ทางพรรคไม่สบายใจ ผมขอเรียนว่าครอบครัวอยู่บำรุง และครอบครัวธูปกระจ่าง รู้จักมักคุ้น รักใคร่ชอบพอกันมาหลายสิบปี และที่ผมไปก็อยู่ในช่วงเวลาปิดหีบแล้ว ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของคะแนน"
นายวัน กล่าวต่อว่า เมื่ออธิบายความออกไปก็ไม่ได้มีท่าทีว่าอะไรจะดีขึ้นเลย บทสนทนามีมากกว่านั้น และมีหลายประโยคที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ จึงเป็นเหตุที่ทำให้พูดออกไปว่าขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนวันนี้ที่มาลาออก เมื่อผู้ใหญ่ในพรรคมองว่าตนไม่เข้าตาแล้ว ท่านไม่แฮปปี้ก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค เมื่อพรรคมีกิจกรรมอะไรก็ต้องไปร่วมงาน คงไม่หน้าด้านที่จะไปเดินเกะกะรกหูรกตาผู้ใหญ่ในพรรค
นายวัน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนก็แค่ ส.ส.กทม.สอบตก แต่ที่สอบตกอย่าลืมว่า กทม.มี ส.ส. 33 คน พรรคเพื่อไทยสอบตก 32 คน ถ้าสอบตกคนเดียวจะพิจารณาตนเอง คิดว่าทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องกลับไปพิจารณาตัวเองว่านโยบายหาเสียงของพรรคครั้งที่แล้วเป็นอย่างไร จะว่าเป็นความผิดของผู้สมัคร ส.ส.กทม.ก็ไม่ใช่ และคนเราก็อย่าไปเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จงหาทางอยู่รอดกับการเปลี่ยนแปลง ชีวิตต้องดำเนินต่อไป คงไม่ทราบว่ากรณีของตนจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือตีวัวกระทบคราดหรือไม่ ตนรู้ว่าตนผิดจึงไปมอบตัว แต่ไม่คิดว่าความผิดของตนจะหนักหนาสาหัส คิดไปเองว่าเมื่อมาถึงพรรคก็แค่โดนดุ หรือตักเตือน ไม่คิดว่าจะเลยเถิดบานปลายถึงขนาดนี้
เมื่อถามว่า การลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเองหรือบีบให้ลาออก นายวัน กล่าวว่า บทสนทนาในวันนั้นมีมากกว่านี้ มีหลายประโยค จึงเป็นเหตุที่ทำให้ตัดสินใจลาออก โดยตนตั้งข้อสังเกตกรณี นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกฯ ลองเปรียบเทียบกับกรณีของตนว่าจะผิดมารยาทหรือไม่ หรือว่าจะมีคนที่อยู่เบื้องหลังนายวรชัย มากกว่ามากบารมีนายกฯ จึงทำให้นายวรชัยพูดได้ เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ตัดสินใจลาออก หรือมีเรื่องอื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า เรื่องครั้งนี้ คนที่ไม่เข้าตาอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ตระกูลอยู่บำรุงประจบสอพลอใครไม่เป็น เมื่อถามย้ำว่า คำพูดนั้น กระทบต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผย
เมื่อถามว่า วันที่จะลาออก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รั้ง อะไรไว้บ้างไหม นายวัน กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดอะไร ทั้งนี้ตอนที่ไปมอบตัวยังไม่ได้คิดว่าจะลาออกจากตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น คนเราก็อยากมีตำแหน่ง อยากเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การเมือง แต่ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง เมื่ออยู่แล้วเขาไม่มีความสุข จะไปเสนอหน้าอยู่ทำไม เมื่อถามย้ำว่า คำพูดที่ทำให้ตัดสินใจลาออก เป็นคำพูดจากหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ไม่กล้าพูด วันนั้นมีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ผอ.พรรคการเมือง และตน ซึ่งตนเป็นส.ส.สอบตก คงไม่มีราศี ราคาค่างวด แต่มีผู้ติดตามตนในโซเชียลมีเดีย 1.2 ล้านคน ก็อยากทำงานการเมืองต่อไป ถ้าหากว่ามีพรรคการเมืองใดที่คิดว่าตนพอเป็นประโยชน์ ลองติดต่อมา เพราะตอนนี้มีสถานะนักการเมืองไร้สังกัด แต่ยังทำงานการเมืองต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา ขอยืนยันว่าครอบครัวอยู่บำรุง รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่า สโลแกนใจถึงพึ่งได้ ยังคงอยู่หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ก็ยังใจถึงพึ่งได้ ยังทำงานเพื่อสังคม ใจถึงพึ่งได้มีมาก่อนที่ตนจะเป็นส.ส. และที่สำคัญเอฟซีที่ติดตามตน ก็ได้ติดตามมาก่อนที่จะเป็นสส.ด้วยซ้ำ เขาไม่ได้มองที่ตำแหน่งแต่มองที่ตัวตน เมื่อถามว่า ถ้าเป็นพรรคก้าวไกลจะสามารถร่วมงานได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ยังไม่มีใครติดต่อมา ไม่รู้ว่าตนจะมีประโยชน์กับใครคงต้องติดตามดู แต่ไม่ทิ้งงานการเมือง
เมื่อถามอีกว่า ถ้าร่วมงานกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า เป็นพี่ที่เคารพรัก มีงานการเมืองครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยทำงานร่วมกับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดานายอนุทิน) ก็ผูกพันรักใคร่ ส่วนนายอนุทิน ส่วนตัวให้ความรัก และเคารพกัน เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยู่หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ณ เวลานี้ยังอยู่พรรคเพื่อไทย ท่านก็อยากให้ขับออก คุณพ่ออายุเยอะ แต่ความรู้ความสามารถเขาไม่ได้ลดน้อยลง เขาก็อยากมีบทบาททางการเมืองอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสนั้น
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้ติดต่อมาคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ไม่ทราบ โดยแต่ก่อนท่านคุยกันบ่อยมาก สัปดาห์หนึ่งคุย 2-3 วัน แต่พอหลังจากเลือกตั้งมาแล้วจนถึงทุกวันนี้ไม่ทราบ และไม่ได้ยินว่าคุณพ่อคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ เมื่อถามว่าลาออกแล้ว ในส่วนของนายอาชวิน อยู่บำรุง บุตรชาย ซึ่งทำงานด้านการเมืองจะทำอย่างไรต่อไป นายวัน กล่าวว่า ให้เขาได้ตัดสินใจเอง เพราะโตแล้ว ตอนนี้ก็อายุ 27 ปี ส่วนตัวไม่ได้ให้คำปรึกษา หรือแนะนำอะไร
เมื่อถามว่า ถ้ามีการพูดคุยเคลียร์ใจกัน จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้อีกหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า มันเลยจุดนั้นไปไกลแล้ว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ต้องทบทวนตัวเอง แต่ยืนยันว่ายังทำงานการเมือง เมื่อถามว่า อยากจะบอกอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่ให้โอกาสกับตน ตั้งแต่พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ทุกวันนี้ก็ยังรักพรรคเพื่อไทยอยู่ และผู้บริหารพรรคทุกท่านอยู่เสมอเหมือนเดิม แต่ไม่ทราบว่าผู้บริหารพรรคทุกวันนี้ยังรักและเอ็นดูตนหรือไม่ ก็ต้องมีทางเดินของตัวเอง เมื่อเขาไม่แฮปปี้ตนไม่สบายใจ ก็ถอยออกมาดีกว่า