ปลัดเกษตรฯ ประชุมปุ๋ยคนละครึ่งไม่มีข้อสรุป อ้างรอความชัดเจน งดให้สัมภาษณ์ ขณะที่ อธิบดีกรมข้าวยอมรับอาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าเพราะถูกวิจารณ์หนัก เกษตรกรขาดเงินสมทบ แถมสหกรณ์เข้าร่วมโครงการไม่พร้อม
วันที่ 15 กค 67 เวลา 15.00 น. นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ระดับประเทศ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น กรมการข้าว /กรมส่งเสริมการเกษตร /กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเพื่อสรุปความพร้อมของแต่ละหน่วยงานในการดำเนินโครงการปุ๋ยคนละครึ่งหลังจากไม่สามารถดำเนินการคิกออฟได้ทัน ในวันนี้ (15 ก.ค.)
โดยนายประยูร กล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้จะมีข่าวดี เรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง แค่พอถามว่า เรื่องความชัดเจนเรื่องปุ๋ยคนละครึ่งหรือไม่นายประยูรบอกว่า จะมีความชัดเจนจาก 2 กรมที่เกี่ยวข้องคือกรมส่งเสริมการเกษตรที่ตนให้หาข้อสรุปเรื่องของเกษตรกร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่าสหกรณ์มีความพร้อมหรือไม่ ส่วนจะสรุปอย่างไรต้องรอทั้ง 2 กรมชี้แจง
ซึ่งการประชุมเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเป็นอย่างเคร่งเครียด และใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นก็ปิดการประขุม ทันที โดยนายประยูร สั่งให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ แจ้งผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า รอความชัดเจนอีกครั้งและไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
ทั้งนี้ก่อนเข้าประชุมนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว บอกว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่งละครึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะต้องเลื่อนโครงการออกไปก่อน ซึ่งอาจจะเป็นฤดูกาลหน้าเนื่องจากขณะนี้ยังมีความเห็นต่างของเกษตร รวมทั้งเกษตรกรบางส่วนไม่มีเงินสมทบซื้อปุุ๋ยคนละครึ่ง และเกษตรกรบางส่วนเริ่มการเพาะปลูกไปแล้วและสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการยังมีน้อยราย หรือเพียง 500 แห่ง จากสหกรณ์ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง
อย่างไรก็ตามแม้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดเดิม โครงการนี้อาจจะเลื่อนไปเป็นฤดูกาลเพาะปลูกหน้า ช่วง มกราคม หรือกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลาดำเนินการ 31 พฤษภาคม 2568 ส่วนผู้ผลิตปุ๋ยและชีวภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการข้าวกว่า 180 ราย นั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆหากต้องเลื่อนโครงการออกไป เพราะเป็นการลงทะเบียนเท่านั้นยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ทั้งนี้ต้องรอมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ระดับประเทศพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีแนวทางอย่างไร