เจ้าของบริษัทรถเช่า เข้าร้องสายไหมต้องรอด หลังลูกค้า นทท.ชาวจีน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ดักปล้นรถก่อนอุ้มไปรีดเงินที่ห้องพัก สูญหายกว่า 700,000 บาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซ.สายไหม 38 นายเอ (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 38 ปี เจ้าของบริษัทรถเช่า ของความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ร้องสายไหมต้องรอด หลัง 2 นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เช่ารถกับตน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ดักปล้นรถยนต์กลางทาง พาไปค้นห้องพัก รีดเงินไปกว่า 700,000 บาท ก่อนหลบหนีไป
นายเอ กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อให้ ไปรับนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย จากท่าอากาศยานเชียงรายให้ไปส่งที่พัทยา จึงได้ปล่อยเช่ารถพร้อมคนขับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยต่อมาในช่วงค่ำของวันดังกล่าวขณะที่รถได้มาถึงยังบริเวณทางบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ ช่วงเลยด่านเก็บเงิน ได้มีรถยนต์จำนวน 1 คันปาดหน้าและและอีก1 คันประกบข้าง ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน ลงมาพร้อมขอเข้าค้นตัวนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 ราย โดยอ้างว่าเป็นตำรวจ ก่อนจะมีการพาไปที่เซฟเฮาส์ของกลุ่มชายฉกรรจ์
ซึ่งหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ ไม่ได้มีการพยายามพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย แต่ก็ไม่รู้เรื่อง จึงได้มีการติดต่อไปหาล่ามให้เป็นตัวกลางในการพูดคุย โดยจากการสอบถามคนขับว่ามีการพูดอะไรกัน ซึ่งทางคนขับที่ไม่สามารถพูดภาษาจีนได้แต่ สามารถจับใจความได้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์พยายามขอเรียกรับเงิน โดยหากไม่จ่ายเงินจะถูกแจ้งข้อหา ชาวจีนทั้ง 2 รายจึงได้มีการจ่ายเงินไป ทั้งสกุลเงินหยวนและสกุลเงินดอลล่าร์รวมกันเป็นจำนวน 700,000 บาท ก่อนถูกปล่อยตัว และคนขับรถได้มีการไปส่งตัวนักท่องเที่ยวที่ห้าง เทอร์มินอล 21 พัทยา โดยไม่ได้มีการจ่ายเงินค่ารถ
ตนจึงได้รับการติดต่อ จากทางคนขับรถเเละได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ตนฟัง ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่สามารถติดต่อคนขับรถได้อีกหลังเกิดเรื่อง อีกทั้งที่ตนไม่ได้มีการไปแจ้งความกับตำรวจเพราะตนไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรงเเต่ส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 คน ตนก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงไม่รู้ว่ามีการไปเเจ้งความหรือยัง ตอนนี้ตนไม่รู้ว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวนั้นเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และกังวลเรื่องความปลอดภัย
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าคนขับรถถูกตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาคุมตัวอยู่ จึงอยากให้นำตัวมาให้ปากคำที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ปากคำ และตอนนี้ตนได้ติดต่อไปยังรองผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา ให้เร่งติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณช่วงหนองปรือ จ.ชลบุรี โดยตอนนี้รู้เส้นทางของรถต้องสงสัยทั้ง 2 คันแล้ว
เบื้องต้นจากพฤติการณ์ตำรวจเมืองพัทยา ตั้งข้อสังเกตว่าอาจไม่ใช่ตำรวจจริง โดยอยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปทั้งหมดมาสอบปากคำ หากพบความผิดจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที