'สนธิญา' ร้อง สถานทูตสหรัฐอเมริกา ปม มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยูนิเวริด์ซิตี้ หลังมีกระแสการจบการศึกษาป.เอกของส.ว.เกศ

วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. นาย สนธิญา สวัสดี เดินทางมาที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ  เพื่อยื่นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ( โรเบิร์ด เอฟ โกเดค) เพื่อร้องให้ตรวจสอบ มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้ ได้รับการอนุญาตหรือรับรองโดยรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา หรือไม่ 

นาย สนธิญา เปิดเผยว่า วันนี้ต้นมาเรียกร้องให้สถานทูตสหรัฐอเมริกา  เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ประเด็นที่หนึ่งเรื่องมหาลัยดังกล่าว ประเด็นที่สองรับรับรองคุณวุฒิทางด้านการศึกษาของผู้จบมหาลัยดังกล่าวหรือไม่ ประเด็นที่สามเป็นมหาลัยมหาลัยที่ทางรัฐบาลกลางสหรัฐและทางรัฐ แคลิฟอร์เนียได้รับการจัดตั้งเรียบร้อยหรือไม่ และเป็นที่มาของการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ที่ปนะชาชนออกมาพูดออกมาแสดงความคิดเห็นและในประเด็นผมเข้าใจว่าทางสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศระบอบประชาธิปไตยที่สมควรจะรับทราบรับรู้และเห็นในประเด็นเหล่านี้ชัดเจนว่ามหาลัยดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องของเอกชนหรือเป็นเรื่องของหน่วยงานของรัฐส่วนกลางหรือส่วนท้องถิ่นที่อนุญาตให้เปิดและมีคุณวุฒิเป็นรองของสหรัฐอเมริกาหรือไม่อย่างไร เพราะจะมาเทียบเคียงกับประเทศไทยของเราได้ ส่วนประเด็นที่หน่วยงานด้านการศึกษาหรือหน่วยงานราชการ รับรองวุฒิปริญญานี้ ของสว. เท่าที่ตนได้ข่าว ยังไม่มีการรับรองและหน่วยงานอื่นๆก็ยังไม่มีมีการรับรอง ซึ่งแต่ละท่านที่ออกมาให้ความคิดเห็นเช่น ดร.เจษฏ์ ต้องเอ่ยชื่อท่านซึ่งเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย แล้วก็ไม่ว่าจากอาจารย์มหาลัยเกษตรหรือท่านรองเลขาสถาบัน พระปกเกล้า บุคคลเหล่านี้ก็เป็นคนหนุ่มแต่จบการศึกษาระดับด็อกเตอร์ จบการศึกษาระดับปริญญาเอกของต่างประเทศ บุคคลเหล่านี้ผ่านในเรื่องของการทำน ศาลานิพนธ์ วิทยานิพนธ์ผ่านการทำวิชาการเล่มเพื่อจะได้มาซึ่งตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซึ่งจะได้ถูกต้อง ได้รับโปรดเกล้าเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องหาบทสรุปให้ชัดเจนและเป็นที่มาว่าผม ไปสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ จึงให้สถานทูตโปรดวินิจฉัยว่า สถาบันเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและสถาบันเหล่านั้นเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานของราชการของอเมริกาสหรัฐอเมริกาหรือหรือไม่อย่างไร ไม่ว่าท้องถิ่นหรือหรือหน่วยงานต่างๆ

ทั้งนี้ตนฝากไว้นิดหนึ่งว่า ส.ว.เกศ ขอให้ท่านช่วยดูคนรอบข้างกันด้วยโดยเฉพาะออกข่าวทุกวันทุกวันทุกวัน ออกมาด้อยค่าคนโน้นคนนี้ด่าคนโน้นคนนี้ ว่าหิวแสง อะไรสารพัดเพราะคนที่ออกมาให้ความเห็นแต่ละคน เท่าที่ตนดูนะเป็นอาจารย์ทำงานอยู่ในราชการเกือบทั้งหมดแล้วเป็นผู้ที่มีภูมิรู้จบระดับด็อกเตอร์ผ่านการเป็นรองศาสตราจารย์หรือทำ วิทยานิพนธ์ มาทั้งหมดครบถ้วนแต่คนที่ออกมาด่าด้อยค่าแต่ละวันแต่ละวันทุกวันนั้นผมไม่ได้บลูลี่นะแต่ผมไม่แน่ใจว่า เค้าเข้าใจการทำศาลาวิทยานิพนธ์ หรือทำอะไรพวกนั้นหรือไม่อย่างไร ถ้าเป็นไปได้ดีที่สุด ส.ว. เกศหรือถ้า บุคคล เกี่ยวข้องอย่างใดก็ตาม ให้เงียบๆ ปล่อยให้สถานการณ์คลี่คลายไปตามสถาณการณ์ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่า ตนขอฝากถึงส.ว. ที่ให้ตนหุบปากตนขอเรียนท่านว่า ตำแหน่งวุฒิสภา เป็นสาธารณะทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ต้องรับความฟังความคิดเห็นของประชาชน ท่านอย่าหลงทำเหมือนกับอึ่งอ่างที่ฝนตกครั้งแรกก็ได้น้ำจากตกและออกมาพองตัวเหมือนได้น้ำลั่นทุ่ง ตนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ท่านต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน ก็จะเป็นประโยชน์มากกว่า ตนไม่เคยบอกว่าท่านส.ว. โกหกหรือได้ปริญญาปลอม แต่กรณีที่นำเอกสารที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงและนำไปเข้าระบบเลือกตั้งส.ว. มันมีกฎหมายควบคุม ตนขอบอกว่าคุณจะจบอะไรก็ตามที่ไหนอย่างไรได้รับการยอมรับในระดับประเทศต่างประเทศ แต่ กรณีที่ท่านเขียนไปในประวัติการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ไปเขียนประวัติลงไปในระบบราชการเพื่อเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาก็เข้าสู่ปอประกอบว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 77 วงเล็บสี่การนำคุณสมบัติหรือข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงแล้วทำให้ผู้เลือก ตั้ง เหล่านั้นเข้าใจผิด คุณจบที่ไหนอย่างไรนั้นเป็นสิทธิ์ของคุณ หลังจากที่ท่านสว.ได้รับการประกาศจาก ก.ก.ต.และไปลงทะเบียนวุฒิสภาแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการจริยธรรมว่าด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 219 ซึ่งพรุ่งนี้ตนก็ไปยื่นให้ป.ป.ช.ยื่นวินิจฉัยจริยธรรมร้ายแรงอีกทีนึงตั้งแต่การได้มาและได้เป็นส.ว. ในปัจจุบัน 

ทั่งนี้อย่างไรก็ตามทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาไม่สามารถรับหนังสือดังกล่าวได้เพียงแต่รับเรื่องไว้แล้วให้นายสนธิญา ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศแล้วถึงจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปวินิจฉัยอีกทีนึง