นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก พ.ศ. ... ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จึงได้มีมติให้ดำเนินการออกสลากตัวเลขสามหลัก ในงวดแรกวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยจะเริ่มจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้ตั้งแต่ 2 เมษายน2568 เป็นต้นไป

ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลัก มีประสิทธิภาพและความพร้อมก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว คณะกรรมการสลากฯ จึงได้เห็นชอบแผนการดำเนินการ (โรดแมป) จากนี้ ออกเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การเตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของการพัฒนาระบบการจำหน่าย ราคาจำหน่าย วิธีการจำหน่าย ตลอดจนกระบวนการที่เกี่ยวข้อง โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบในรายละเอียด ภายในเดือนกันยายน 2567

ระยะที่ 2 ทดสอบการจำหน่ายจริงในระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ในช่วงเดือนตุลาคม 2567 เป็นเวลา 6 เดือน  โดยจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ , จุดจำหน่าย , ตัวแทนจำหน่าย พร้อมการประเมินผลการทดสอบ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสลากฯ เห็นชอบ ,ระยะที่ 3 การสรรหาตัวแทนจำหน่าย  ซึ่งมีรายละเอียดขั้นตอนในการพิจารณา , หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแทน และการทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย  ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบเช่นเดียวกัน และระยะที่ 4 เสนอที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบกำหนดวันเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การออกสลากตัวเลขสามหลัก เพราะต้องการแก้ไขสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก หรือ L6 แบบใบ ซึ่งยังพบปัญหาการจำหน่ายเกินราคา ขณะเดียวกันยังเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้จำหน่ายสลากไม่ต้องมีความเสี่ยง ในการรับสลากไปแล้วจำหน่ายไม่หมด สามารถขายได้ทุกหมายเลขผลที่เกิดขึ้นคือจะช่วยลดปัญหาหวยใต้ดิน ดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น 

สำหรับสลากตัวเลขสามหลัก กำหนดราคาไว้ที่รายการละ 20 บาท ผู้ซื้อ สามารถซื้อได้ทุกหมายเลขตั้งแต่ 000-999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการซื้อ สำหรับวิธีการจำหน่าย จะเป็นรูปแบบดิจิทัล กำหนดสัดส่วนยอดจำหน่าย 60% เป็นเงินรางวัล , ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร โดยกำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ใช้วิธีอ้างอิงผลรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัล สามตรง มาจาก เลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลสองตรงมาจากผลการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว การซื้อทุก ๆ 1 รายการจะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข มีโอกาสรับรางวัล 4 ประเภทรางวัล คือ รางวัลสามตรง , รางวัลสามสลับหลัก , รางวัลสองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษ จากสลากที่ถูกรางวัลสามตรง โดยจะจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และหากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัลจะสมทบเงินรางวัลในงวดถัดไป แต่หากงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัล เงินรางวัลดังกล่าวจะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน