กรมชลประทาน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ช่วงวันที่ 15-20 กรกฎาคม 2567 อย่างใกล้ชิด หลังสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเตือนมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน (SWOC) เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ ในช่วงวันที่ 14 – 17 กรกฎาคม 2567 ร่องมรสุมกำลังแรงจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง อีกทั้ง สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในช่วงวันที่ 15 – 20 กรกฎาคม 2567 ในพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้
ในการนี้ นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ รวมถึงสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน พร้อมเตรียมแผนรับมือน้ำหลาก ด้วยการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทาน ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ปรับการระบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตลอดจนเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ ระบบสื่อสารสำรอง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมยึดปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 67 อย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของรัฐบาล และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์