เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมาถึงโรงเรียนเทิงวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อเยี่ยมชมข่วงเรียนรู้เยาวชน วิสาหกิจชุมชน พบปะเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งครู และนักเรียน ได้ขอเซลฟี่กับนายกฯ โดยนายกฯได้เอาโทรศัพท์มาเซลฟี่ด้วยตัวเองสร้างความสนุกสนานครึกครื้นทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความกันเอง ขณะเดียวกันตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ยังได้มอบภาพวาดภาพเหมือนนายกฯ รวมถึงภาพวาดที่ชื่อว่า “โอกาสจากดวงจันทร์” ซึ่งมีแนวคิดเปรียบนายกฯเป็นดวงจันทร์ที่ให้แสงสว่าง ส่วนนักเรียนเปรียบเหมือนต้นไม้ที่รายล้อมดวงจันทร์ ซึ่งนายกฯที่เหมือนดวงจันทร์จะคอยให้โอกาส และการสนับสนุนให้กับเด็กๆโรงเรียนเทิงวิทยาคม

 

นอกจากนี้ นายกฯยังได้เยี่ยมชมบูธของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเทิง ซึ่งนำเสนอระบบเซ็นเซอร์แจ้งเตือนอุบัติเหตุผู้ประสบภัยทางรถผ่านเสียงเตือนไซเรน และไลน์ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุระบบจะแจ้งเตือนไปยังไลน์ของบุคคลในครอบครัวที่ระบุไว้ในระบบ โดยหลังจากนี้ทีมนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเทิงจะเดินทางไปแข่งขัน งานประกวดสุดยอดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาประจำปี 2567 รอบแชมป์ชิงแชมป์ ซึ่งนายกฯได้อวยพรขอให้ชนะด้วย

 

จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมเวที “นายกฯพบเยาวชน” โดยตัวแทนเยาวชนเชียงราย สะท้อนปัญหาหลักของเยาวชนในพื้นที่คือเรื่องยาเสพติด เช่น ยาบ้าที่ทะลักเข้ามาอย่างมากมาย เพราะเป็นพื้นที่ติดต่อชายแดน และยาบ้ามีราคาที่ถูกมาก ซึ่งปัญหาหลักเหล่านี้เป็นปัญหาหลักโดยตรงต่อเยาวชนไทยที่เป็นเหมือนต้นกล้า และการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมถึงปัญหาสุราที่เด็กอายุ 5-6 ขวบ สามารถซื้อสุราได้ซึ่งอาจเป็นการบ่มเพาะพฤติกรรมที่ไม่ดี จึงหวังว่านายกฯจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ให้กับเยาวชนเชียงรายให้ปลอดภัยได้จากสิ่งต่างๆ

 

ขณะที่ตัวแทนเยาวชน อ.เทิง ได้เสนอแนวทางการแก้ไขคือการสร้างศูนย์พัฒนาเยาวชนเพื่อส่งเสริม และพัฒนาให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดมากขึ้น จึงขอเสนอการสร้างอาคารกีฬาอเนกประสงค์ เวิร์คช็อปการเต้น หรือสถานที่สำหรับการแข่งขันอีสปอร์ต เพื่อให้นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ในการเล่นกีฬาต่างๆจะได้ห่างไกลจากยาเสพติด

 

นายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาที่โรงเรียนเทิงวิทยา เป็นที่ทราบกันดีว่ายาเสพติดเป็นปัญหาที่ใหญ่มากในสังคมนอกเหนือจากปัญหาเรื่องปากท้อง ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งตนลงพื้นพื้นที่ในทุกๆจังหวัดทุกคนบ่นเรื่องยาเสพติดหมด โดยเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงราย ที่ใกล้ชายแดนเมียนมาก็มีการนำเข้ายาบ้าเข้ามาเยอะมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้มีการนำยาเข้ามา แต่รัฐบาลเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ต้องอาศัยสถาบันครอบครัว และสถาบันการศึกษาด้วย ตนเชื่อว่าเยาวชนในที่นี้มีผู้ปกครองดูแลอยู่ ตนในฐานะที่เป็นพ่อสิ่งที่เราอยากเห็นคือลูกหลานเจริญเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณค่าต่อสังคม แต่สิ่งเดียวที่จะทำลายเรื่องนี้คือเรื่องของยาเสพติด จึงขอฝากไว้ให้สถาบันครอบครัว โรงเรียน และกระทรวงศึกษาธิการดูแลด้วย 

 

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่มีการสะท้อนเรื่องการเล่นกีฬาที่บอกว่าร้อนก็เห็นใจ แต่ก็ได้วิตามินดีเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่สร้าง จึงขอฝากกระทรวงศึกษาจัดสรรงบประมาณให้อย่างเหมาะสม ซึ่งนักเรียนที่ทำหน้าที่พิธีกรในขณะนั้นได้แย้งขึ้นมาว่า เล่นกีฬากลางแจ้งดีแต่จะทำให้ผิวเสีย สร้างรอยยิ้มให้กับนายกฯ และเรียกเสียงหัวเราะจากนักเรียนที่ร่วมฟังเสวนาทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน

 

นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องสำคัญ ในกรุงเทพฯเองก็อย่างที่ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของความเก๋ เท่ ทันสมัย ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิดร้ายแรง ต้องให้เจ้าหน้าที่กวดขันจับกุม และให้ความรู้กับเด็กว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และยังมีเรื่องที่น่าตกใจที่บอกว่าผู้ใหญ่ให้เด็ก 5-6 ขวบ ไปซื้อเหล้า เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เพราะเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ไม่ถูกต้องเป็นการบ่มเพาะพฤติกรรมที่ทำให้เด็กคิดว่าการไปซื้อเหล้ามาดื่มเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 

 

“ขอให้ทุกคนที่มีความหวังดีกับเยาวชนไทยคิดให้ลึกคิดให้มากก่อนที่จะมีการไหว้วานเด็กให้ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย” นายกฯ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกฯได้ร่วมกับประทานอาหารกลางวันกับเด็กนักเรียน โดยนายกฯได้ซื้อไก่เคเอฟซีมาแจกเด็กๆเป็นมื้ออาหารกลางวัน โดยระหว่างรับประทานอาหารได้สอบถามเด็กๆว่าอนาคตอยากเป็นอะไร และอยากเรียนต่อที่ไหน ซึ่งนายกฯแนะนำว่าเศรษฐศาสตร์ก็ดี เพราะสามารถไปทำงานได้หลากหลายอาชีพ และร่วมรับประทานอาหาร กับเด็กนักเรียน จากนั้น นายกฯได้รับปากจะจัดหางบประมาณ 6 ล้านบาท เพื่อสร้าง อาคารอเนกประสงค์สำหรับเล่นกีฬาของเด็กนักเรียนโรงเรียนเทิงวิทยาคม ทั้งนี้ หลังจากนายกฯ รับปากว่าจะจัดหางบประมาณในส่วนนี้ให้ได้มีตัวแทนนักเรียน ขอหอมแก้มนายกเพื่อเป็นการขอบคุณซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แซวว่าหอมได้ แต่ให้เช็ดปากก่อน ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการรับประทานอาหารกลางวัน

 

จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางลงพื้นที่ อ. เชียงแสน เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทานเพื่อการอุปโภคบริโภค และพบปะประชาชน