จากกรณีที่เพจอีซ้อขยี้ข่าว 3 ได้นำคลิปวิดีโอ ขณะวิน จยย. ด่าลั่นโวยจะร้องขนส่งฯ มาเผยแพร่ลงในโซเชียล พร้อมระบุข้อความว่า “ลิ้นกับฟันปัญหาโลกแตก…ลูกค้าสะดวกเรียกไรเดอร์ แต่วินมอเตอร์ไซค์ไม่พอใจ" โดยในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์คลิปเหตุการณ์ ขณะที่ไรเดอร์รายหนึ่ง เกิดมีปากเสียงกับวิน จยย. ขณะมารับผู้โดยสาร โดยในคลิปปรากฏภาพชายสวนเสื้อวิน จยย. กำลังถือโทรศัพท์ทำท่าคล้ายถ่ายคลิปแล้วบอกว่า จะร้องเรียนขนส่ง โดยทางุไรเดอร์ได้มีการนัดรวมตัวกัน ณ บริเวณจุดเกิดเหตุในเวลา 12.00. น. ของวันนี้ (13 ก.ค.)

เมื่อถึงเวลากลุ่มไรเดอร์ได้มารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าร้านเซเว่น ภายในซอย 20 มิถุนา ย่านสุทธิสาร ก่อนเคลื่อนตัวมายังจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าวิน จยย. รับจ้าง และได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้มีการนัดหมายเจรจากันที่ สน. ในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 16 ก.ค. 2567  จากนั้นกลุ่มไรเดอร์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

โดยนาย อุเทน พุทธระสุ คนขับไรเดอร์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 14:00 น. ตัวเองได้ ขับรถเพื่อเข้าไปรับผู้โดยสารตามโลเคชั่นที่ผู้โดยสารกดเรียกในแอปพลิเคชั่น ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงผู้โดยสารกำลังจะขึ้นรถ จู่ๆก็มีผู้ชายสวมเสื้อวินเดินเข้ามาพร้อมกับถ่ายรูปตัวเอง ตัวเองก็งงว่าถ่ายทำไมจึงได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายกลับ หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เริ่มด่าตัวเองว่าทำไมถึงเข้ามารับลูกที่นี่ได้ พร้อมกับอ้างว่าจะนำหลักฐานไปแจ้งขนส่งเนื่องจากรถตัวเองเป็นแผ่นป้ายทะเบียนสีขาว ตัวเองจึงตอบกลับไปว่ารถพี่ก็ป้ายขาว จากนั้นเจ้าตัวก็เดินเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับด่าทอด้วยความหยาบคาย ส่วนตัวยอมรับว่าไม่ทราบถึงกฎระเบียบการเดินทางเข้ามารับลูกค้าบริเวณที่มีจุดจอดวินมอเตอร์ไซค์อยู่ ว่าจะต้องทิ้งระยะห่างมากน้อยแค่ไหน เพราะตัวเองก็ขับมารับลูกค้าตามพิกัดที่ลูกค้ากำหนดไว้ในแอปพลิเคชั่น อีกทั้งเมื่อวานถือว่าเป็นครั้งแรกที่เข้าไปรับลูกค้าภายในซอยดังกล่าว 

"ส่วนวันนี้ตัวเองได้เข้ามาลงบันทึกประจำวัน ที่ สน. สุทธิสาร เรียบร้อยแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังวินมอเตอร์ไซค์คู่กรณี โดยเจ้าตัวยืนยันว่าจะเข้ามาเจรจาในวันอังคารที่ 16 กรกฎาคมนี้ แต่เบื้องต้นตัวเองยังไม่ได้รับคำขอโทษจากคู่กรณี ยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะทราบมาว่าวินมอเตอร์ไซค์คู่กรณีเคยก่อเหตุแบบนี้กับไรเดอร์คนอื่นๆมาแล้วหลายครั้ง" นายอุเทน กล่าว