วันที่ 12 ก.ค.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบหนังสือร้องเรียนจาก นางสาวดวงพร บุญมี ผู้แทนเครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลอง ซึ่งรวมตัวประชาชนและชุมชนริมคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว จำนวน 60 คน มาร้องเรียนที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร ขอให้ระงับโครงการตัดบ้านคืนคลองในชุมชนที่ถูกสร้างสิ่งขวางลำคลอง รวมถึงใช้มาตรการในการดำเนินการกับผู้ไม่เห็นด้วยกับโครงการฟื้นคลองแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง
นายชัชชาติ ยืนยัน กทม.ไม่มีการอนุญาตให้มีการสร้างบ้านในคลองอย่างแน่นอน การสร้างเขื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นความจำเป็นที่ต้องดำเนินการ หากไม่สร้างเขื่อนก็ไม่มีอะไรดีขึ้น น้ำก็ยังท่วมเหมือนเดิม ส่วนคนที่รุกล้ำอยู่นอกแนวเขื่อน กทม.จะประสานกรมธนารักษ์ฟ้องดำเนินคดีต่อไป ทำให้ประชาชนที่มาร้องเรียนมีความพอใจเพราะไม่ต้องการให้มีการเหลื่อมล้ำว่ากลุ่มคนที่ให้ความร่วมมือยอมย้ายออกจากที่รุกล้ำต้องเป็นหนี้ค่าบ้าน ส่วนคนที่ให้ความร่วมมือรื้อย้ายเฉพาะในแนวเขื่อน ยังอยู่ที่เดิมได้
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ชี้แจงว่า ปัญหารุกล้ำแนวคลองสาธารณะเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาคุณภาพชีวิต ปัญหาน้ำท่วม เพราะไม่สามารถปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคูคลองได้ จากปัญหาดังกล่าวและมหาอุทกภัย พ.ศ.2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 เห็นชอบข้อเสนอการบริหารจัดการสิ่งรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครร่วมกันดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่บุกรุกลำน้ำสาธารณะ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาจัดหาที่พักอาศัยถาวรให้กับผู้บุกรุก ซึ่งในระยะเร่งด่วนได้มีการกำหนดคลองสำคัญที่มีปัญหาการรุกล้ำ จำนวน 9 คลอง ได้แก่ คลองบางซื่อ คลองบางเขน คลองลาดพร้าว(คลองสอง) คลองเปรมประชากร คลองพระยาราชมนตรี คลองสามวา คลองลาดบัวขาว คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองพระโขนง โดยเริ่มดำเนินการที่คลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากรในระยะต่อมา
สำหรับคลองเปรมประชากรบริเวณชุมชนเปรมสุขสันต์และชุมชนมิตรประชา เขตหลักสี่ ซึ่งอยู่บริเวณปากคลองบางตลาด กรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการก่อสร้างเขื่อนบริเวณดังกล่าว ด้วยเหตุผล ดังนี้
1. เนื่องจากความแคบและตื้นเขินของคลองเปรมประชากรบริเวณดังกล่าว ทำให้กรุงเทพมหานครยังไม่สามรถก่อสร้างเขื่อนได้เนื่องจากความกว้างคลองไม่เพียงพอให้เครื่องจักรเข้าไปทำงานก่อสร้างเขื่อนได้ จึงจำเป็นจะต้องขอรื้อย้ายบ้านรุกล้ำฝั่งตรงข้าม คือชุมชนเปรมสุขสันต์ เพื่อให้มีระยะเพียงพอให้เครื่องจักรเข้าทำงานก่อสร้าง รวมถึงต้องขุดลอกคลองเพื่อให้สามารถลำเลียงเสาเข็มเข้าไปก่อสร้างเขื่อน จากการเจรจากับชุมชนเปรมสุขสันต์ได้รับความร่วมมือให้รื้อย้ายเพื่อก่อสร้างเขื่อน ซึ่งชุมชนแจ้งว่าช่วงฤดูฝนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในคลองเปรมประชากรมีระดับสูงทุกปีจึงขอให้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยขอให้ซ่อมบ้านส่วนที่ได้รับความเสียหายจากการรื้อย้ายให้ด้วย ต่อมาจึงได้มีการรื้อบ้านรุกล้ำที่กีดขวางแนวก่อสร้างเขื่อนที่ชุมชนเปรมสุขสันต์ออกไป
2. เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากบ้านมั่นคงที่ก่อสร้างก่อนการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากรฝั่งตรงข้ามจุดดังกล่าว คือ ชุมชนมิตรประชา อยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านมั่นคง ซึ่งหากก่อสร้างบ้านมั่นคงเสร็จก่อนการก่อสร้างเขื่อนภายหลังจะทำให้บ้านมั่นคงเกิดความเสียหายได้
3. เพื่อการบริหารสัญญาก่อสร้างเนื่องจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ที่ผ่านมาผู้รับจ้างต้องหยุดงานรอการส่งมอบพื้นที่หลายครั้ง หากผู้รับจ้างต้องหยุดรอการส่งมอบพื้นที่เป็นเวลานานอาจมีผลกับการบริหารสัญญา เนื่องจากผู้รับจ้างอาจขอยุติสัญญาก่อสร้างเขื่อน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากระทบกับการพัฒนาคลองเปรมประชากรบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ดำเนินการ
โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร ช่วงที่ 4 (จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์) ซึ่งมีรายละเอียดสัญญา ดังนี้ เริ่มตันสัญญาวันที่ 4 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดสัญญา (ครั้งที่ 1) วันที่ 22 มกราคม 2566 (ต่อมาได้รับการขยายอายุสัญญาเนื่องจากปัญหาอุปสรรค อีก 2 ครั้ง) ปัจจุบันสิ้นสุดวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ส่งมอบพื้นที่ได้ความยาว 4,188 เมตร จากทั้งหมด 10,700 เมตร (คิดเป็นร้อยละ 39.14) ผลงานก่อสร้างเขื่อนได้ความยาว 4,188 เมตร (คิดเป็นร้อยละ 37.64) ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างดำเนินการขุดลอกคลองในพื้นที่ที่รื้อย้ายบ้านรุกล้ำแล้วพร้อมกับการก่อสร้างเขื่อน ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่สามารถรื้อย้ายได้และติดปัญหาบ้านรุกล้ำทั้ง 2 ฝั่ง กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเปิดทางน้ำเพื่อการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วม แต่เนื่องจากสภาพคลองที่แคบและตื้นเขิน การเปิดทางน้ำทำได้จำกัด เพราะหากเปิดทางน้ำกว้างหรือลึกอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านรุกล้ำริมคลองได้ ในส่วนของพื้นที่อื่น ๆ ที่สามารถรื้อย้ายและก่อสร้างเขื่อนพร้อมกับบ้านมั่นคงได้ กรุงเทพมหานครจะรีบดำเนินการก่อสร้างเขื่อนเพื่อไม่ให้กระทบกับการก่อสร้างบ้านมั่นคง และในส่วนของพื้นที่ที่มีการรื้อย้ายเพื่อก่อสร้างเขื่อนแล้ว ต้องมีการดำเนินการเพื่อรื้อย้ายและจัดระเบียบที่อยู่อาศัย พร้อมกับการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองต่อไป