ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม สบส., สสจ.นนทบุรี, สสจ.ปทุมธานี กวาดล้างหมอเถื่อนย่านปริมณฑล รวบ 6 หมอเก๊ รักษาโรค - เสริมความงามให้ประชาชน" โดย พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. แถลงผลการจับกุม 4 คดี โดยคดีแรก ตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปคบ.และ อย. จับกุมทลายแหล่งผลิตโบท็อกปลอม ส่งขายคลินิกความงามทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตรวจยึดของกลางกว่า 26,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย โบทูลินั่น ท็อกซิน เอ หรือ โบท็อก

พันตำรวจโท จิรกฤตท ทองจินดา รอง ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า ตำรวจได้สืบสวนและติดตามกลุ่มที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และเครื่องสำอางสำหรับใช้ฉีดเข้าร่างกายที่ไม่มีเลขทะเบียนที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ผ่านช่องทางออนไลน์ จนพบว่ามีนางสาวแพท หรือ พลอยใส เป็นผู้สั่งการ โดยใช้บ้านพักเป็นแหล่งผลิตโบท็อกปลอม ตามที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคลินิกเสริมความงาม ในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอให้ศาลแขวงพระนครเหนือออกหมายค้น จำนวน 2 เป้าหมาย

จุดแรกเป็นบ้านพัก ภายในซอยนวมินทร์ 111 ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ผลิต โดยใช้ตัวยาที่ไม่มีทะเบียน ผสมกับน้ำเกลือในอัตราส่วนที่ไม่เป็นไปตามค่ามาตรฐาน บรรจุลงในขวดยาและปิดผนึก และผลิตภัณฑ์ไปยังจุดที่ 2 มีลักษณะเป็นบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุผลิตภัณฑ์ลงกล่องยาปลอมพร้อมใส่เอกสารกำกับและติดสติกเกอร์ก่อนที่จะนำส่งไปให้ลูกค้า โดยมีลูกจ้างจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้ดูแล

สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่ยึดของกลางเป็นผลิตภัณฑ์โบท็อกที่ได้กำลังได้รับความนิยม จำนวนกว่า 26,000 ชิ้น รวมมูลค่า 10 ล้านบาท และขยายผลพบว่าเครือข่ายนี้ได้มีการใช้บัญชีม้า 5 บัญชี ในการรับเงินค่าผลิตภัณฑ์โบท็อกปลอม เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่  ซึ่ง 1ใน 5 บัญชีนี้ มีเงิน หมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท สำหรับผู้ต้องหาและพวกที่ถูกจับกุม ดำเนินคดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ยา, พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ และ พ.ร.บ. เครื่องสำอาง รวม 7 ข้อหาด้วยกัน

ส่วน คดีที่ 2 ตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปคบ.จับกุมหมอเก๊ 6 คน ที่เปิดคลินิกเสริมความงาม-รักษาโรค หลอกลวงประชาชน หลังจากเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ยึดของกลางได้ 29 รายการ

จากการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของหมอเก๊ทั้ง 6 คน พบว่ามี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากการศึกษานอกโรงเรียนจำนวน 1 คน, จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 คน, จบการศึกษาระดับ ปวช. จำนวน 1 คน,  จบปริญญาตรีพยาบาลศาสตร์ 1 คน, จบปริญญาตรีด้านเทคนิคการแพทย์จำนวน 1 คน และจบปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์และไปเรียนต่อผู้ช่วยพยาบาลจำนวน 1 คน

โดย พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีหมอเก๊ทั้ง 6 คน ข้อหาแตกต่างกันไปเช่น ข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกับประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา

ด้าน ทันตแพทย์ อาคมประดิษฐสุวรรณ ทันตแพทย์ ฝากเตือนถึงสถานพยาบาลและสถานเสริมความงามต่าง ๆ หากมีการนำชื่อแพทย์มาแขวนป้ายโดยไม่จัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการอยู่จริง ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ส่วนแพทย์ที่ยินยอมให้สถานพยาบาลนำชื่อมาแขวนป้าย จะถูกดำเนินคดีด้านจริยธรรมทางการแพทย์ จากแพทยสภา ซึ่งอาจถึงขั้นระงับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ จึงขอเน้นย้ำให้แพทย์ผู้ดำเนินการทุกรายปฏิบัติตามกฏหมาย

ขณะที่ พลตำรวจตรี วิทยาวิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ฝากเตือนประชาชนว่าก่อนเข้ารับการรักษาในสถานเสริมความงามควรตรวจสอบการได้รับอนุญาตก่อนจากนั้นให้ตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นราคาถูกเกินจริง เพราะจะส่งผลอันตรายแก่ร่างกาย ส่วนบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่ง บก.ปคบ.ยังคงเดินหน้าติดตามตรวจสอบจับกุมมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องต่อไป

ในส่วนของ คดีที่ 3 ตำรวจกองกำกับการ 1 บก.ปคบ. ยังได้จับกุม นายจักรวาล  อายุ 23 ปี ที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ให้กับผู้ค้ารายย่อย และลูกค้าที่เป็นเยาวชน ผ่านกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ OpenChat มีเงินหมุนเวียน 10 ล้านบาทต่อเดือน โดยไปจับกุมได้ที่บ้านพักในอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมยึดของกลางได้กว่า 66,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท