ไทยและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เริ่มประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ใช้ชื่อว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย–เกาหลีใต้ รอบแรก โดยใช้ชื่อย่อว่า ความตกลง KTEPA (เคเท็ปป้า) เมื่อวันที่ 9–11 กรกฎาคม 2567 ผลคืบหน้าด้วยดี ตั้งเป้าสรุปผลภายในสิ้นปี 2568
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ให้กำกับดูแลกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศนั้น ไทยโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำความตกลง KTEPA ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 9–11 กรกฎาคม 2567 โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย และนายคอนกี โร เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายเกาหลีใต้ รวมถึงมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งการเจรจาในรอบแรกนี้ มีความคืบหน้าเป็นอย่างดีในบรรยากาศฉันมิตร
“ความตกลง KTEPA จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ โดยคาดว่ามูลค่าการค้าระหว่างกันจะขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะมีการลงทุนจากเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในประเทศไทย” นายสุชาติกล่าว
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ในการประชุมรอบแรกมีประชุมคณะทำงาน 13 คณะ ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) มาตรการเยียวยาทางการค้า 3) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 4) พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า 5) มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 6) อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า 7) การค้าบริการข้ามพรมแดน 8) การลงทุน 9) การค้าดิจิทัล 10) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 11) ทรัพย์สินทางปัญญา 12) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย และ 13) ประเด็นทางกฎหมายและสถาบัน ซึ่งได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย และเริ่มเจรจาข้อบทภายใต้ความตกลง KTEPA ในส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ สองฝ่ายยังได้มีการจัดทำแผนงานการเจรจา โดยเบื้องต้นกำหนดให้มีการเจรจาทั้งหมด 7 รอบ และตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำความตกลง KTEPA ครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายน 2567 ณ กรุงโซล
ทั้งนี้จากผลการศึกษาเบื้องต้นของไทย ประเมินว่า ความตกลง KTEPA จะช่วยเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนเพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่เดิม ได้แก่ FTA อาเซียน–เกาหลีใต้ และความตกลง RCEP โดยมีกลุ่มสินค้าที่คาดว่าไทยจะส่งออกไปเกาหลีใต้มากขึ้น อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และประมง อาทิ เนื้อไก่แช่แข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้เมืองร้อน อาทิ มะม่วง ฝรั่ง และมังคุด ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ อาทิ แป้ง ซอสและของปรุงรส ผลิตภัณฑ์ไม้ อาทิ ไม้แปรรูป พาติเคิลบอร์ด ไม้อัดพลายวูด และเคมีภัณฑ์ และมีสาขาบริการที่คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดการค้าบริการของเกาหลีใต้ อาทิ บริการด้านธุรกิจ บริการการขนส่ง คลังสินค้า และบริการด้านโรงแรมและภัตตาคาร
สำหรับในปี 2566 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับที่ 12 ของไทย โดยการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 14,736.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 6,070.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 8,666.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำตาลทราย แผงวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.67) การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 6,303.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 2,514.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 3,789.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
#ข่าววันนี้ #กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ #กระทรวงพาณิชย์ #เกาหลีใต้ #KTEPA #FTA