กรมประมงรับเรือประมงไทย 6 ลำกลับเข้าฝั่ง ตามหลักเกณฑ์เรือเปลี่ยนพื้นที่ทำการประมง พ.ศ.2567 ขณะที่เรือประมงไทย 4 ลำ ที่ถูกทางการมาเลเซียจับกุม เนื่องจากเครื่องเรือขัดข้อง คลื่นซัดลอยลำเข้าไปในเขตน่านน้ำมาเลเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง จนสามารถนำทั้งคนและเรือกลับมาได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความดีใจของญาติ และส่วนราชการที่มารอต้อนรับ
วันนี้ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ท่าเทียบเรือประมงสงขลา 2 (ท่าสะอ้าน) อ.เมือง จ.สงขลา นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้มอบหมายให้ นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี ผู้ตรวจราชการกรมประมง เป็นประธานในการแถลงข่าวร่วมต้อนรับเรือย้ายพื้นที่ทำการประมงจากอันดามันสู่อ่าวไทย โดยมี นายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา, ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานประสานงานชายแดนไทยมาเลเซีย, ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4, กองทัพเรือ, กรมประมง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล, สมาคมประมงจังหวัดสงขลา, เจ้าของเรือประมงพาณิชย์ และผู้แทนควบคุมเรือประมงพาณิชย์เข้าร่วม
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เรือประมงไทย จำนวน 4 ลำ มีลูกเรือทั้งหมด 19 คน (เป็นเรือย้ายพื้นที่ทำการประมงจากอันดามันสู่อ่าวไทย) ถูกทางการมาเลเซียจับกุมในข้อหา "ผ่านน่านน้ำภายในโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 (3) Akta Perikanan 1985" อธิบดีกรมประมงจึงรายงานเรื่องนี้ไปยัง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเร่งประสานคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทยมาเลเซีย, ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่, กองทัพเรือภาค 3 และหน่วยงานรับผิดชอบเร่งให้การช่วยเหลือ โดยเรือประมงไทยที่ถูกจับกุมทั้ง 4 ลำ ประกอบด้วย เรือทรัพย์รุ่งเจริญชัย 31, เรือลูกเจี๊ยบ 89, เรือ ล.ทวีทรัพย์ 29 และเรือวีระประมง 999 ซึ่งมีลูกเรือรวมทั้งหมด 19 คน (เป็นคนไทย 11 คน เมียนมา 7 คน และกัมพูชา 1 คน) ส่วนเรือประมงที่เข้าท่าเทียบฯ วันนี้ยังมีเพิ่มเติมอีก 2 ลำ คือ เรือวารีศรีทอง 51 และเรือ ป.ทรัพย์เป็นหนึ่ง รวมเป็น 6 ลำ
.
ขณะเรือเข้าเทียบท่าฯ วันนี้สังเกตได้ว่า ทุกคนยังมีกำลังใจดี ผู้ควบคุมเรือและลูกเรือบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งแรกก็ตกใจ แต่ด้วยพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้จงใจล่วงล้ำน่านน้ำ บวกกับการช่วยเหลือของทางการไทยก็ทำให้อุ่นใจมากขึ้น ด้านนางสาวเพชรรัตน์ สำราญรัตน์ ลูกสาวของผู้ควบคุมเรือรายหนึ่งที่ถูกจับกุม เข้าโผกอดพ่อทันทีที่ลงจากเรือ บอกว่า เป็นห่วงพ่อมาก พอรู้ว่าทั้งพ่อ เรือ และลูกน้องโดนจับก็พยายามดิ้นรนช่วยเหลือทุกวิถีทาง จนมาโล่งใจตอนได้รับสายโทรศัพท์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ทำให้มั่นใจว่าพ่อต้องได้กลับมาอย่างปลอดภัย และฝันก็เป็นจริงต้องขอบคุณรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญ ไม่ทอดทิ้งประชาชน
อย่างไรก็ตาม เรือทั้ง 6 ลำ อยู่ระหว่างกำลังยื่นขออนุญาตทำการประมงในฝั่งอ่าวไทย สำหรับกรณีนี้ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งสั่งการให้กรมประมงปรับปรุงระเบียบใหม่ เพื่อให้การย้ายฝั่งทำการประมงสำหรับเรือที่ได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว สามารถย้ายฝั่งได้ตลอดทั้งปี ทุกประเภทเครื่องมือ ให้เหมาะสมตรงกับบริบทที่แท้จริงของชาวประมง โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขไม่เกินโควตาปริมาณสัตว์น้ำสูงสุดที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ใหม่ ส่วนเรื่องของวันทำการประมง ให้ได้รับวันทำการประมงเท่ากับจำนวนวันทำการประมงปกติของเรือในพื้นที่ที่ขอย้ายไปแต่ต้องไม่มากกว่าจำนวนวันที่ได้รับอยู่เดิม ซึ่งเรื่องนี้ กรมประมงได้ออกประกาศกรมประมง เรื่อง หลักเกณฑ์ในการเปลี่ยนพื้นที่การทำการประมงแล้ว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 พร้อมได้นำส่งไปเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป