วันที่ 11 ก.ค.2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ OHCHR เปิดเผยรายงานต่อ UN กรณีธนาคารพาณิชย์ของไทยหลายแห่ง มีบัญชีการเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อทำธุรกรรมในด้านจัดหาอาวุธยุทธภัณฑ์เพื่อใช้ในสงครามภายในประเทศ ว่า การประชุมมีมติได้ว่าน่าจะมีปัญหาจริง แต่จะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร ยังไม่มีข้อยุติ ตนเองเลยเสนอนายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการฯ ว่าให้ประสานไปยังสิงคโปร์ โดยปีที่แล้วเมื่อมีรายงานเหล่านี้ รัฐบาลสิงคโปร์ทำการตรวจสอบอย่างไร กระบวนการเป็นอย่างไร ก็ทำตามกระบวนการนั้น และคงใช้โอกาสนี้ถามไปยังนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีความเห็น และมีจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิกฤตในเมียนมา และรายงานนี้อย่างไร เพราะยังไม่การออกมาชี้แจงเหมือนกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ออกมาชี้แจง ว่ารับเรื่องนี้ไม่ได้ จึงตั้งคณะกรรมการในการสอบสวนทันที ในขณะที่ของไทย เท่าที่ฟังยังไม่มีมีการออกมาแสดงความเห็น และออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

นายพิธา กล่าวต่อว่า ธนาคารไทยมาชี้แจงว่าไม่ทราบ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยรายงานฉบับดังกล่าว ก็บอกว่าอาจจะไม่รับทราบว่าลูกค้าที่มีส่วนหนึ่งที่จะฟันเรื่องการใช้เครื่องบินรบ อาวุธ และการฟอกเงินหรือไม่ ต้องรอดูว่ารายการที่สิงคโปร์ตรวจสอบ แล้วมาเทียบของรัฐบาลไทย และของธนาคารไทยตรงกันหรือไม่ ถ้าตรงกันก็น่าจะดำเนินการได้เร็วขึ้น

 

นายพิธา กล่าวต่อว่า อีกประเด็นสำคัญคือประเทศไทยไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องอาชญากรรมมนุษยชาติ ทาง ปปง. ก็บอกว่าไม่มีกฎหมายรองรับในการดำเนินการต่อไป ซึ่งพรรคก้าวไกลอาจดำเนินการต่อ 

 

นายพิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้เข้ารับฟังการประชุม โดยถ้ามีเวลาเองก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างเรื่องที่ดินทับลาน ถ้ามีประชุมก็จะแจ้งกันในกลุ่มพรรค และจะหาความรู้มากขึ้นเพื่อที่จะช่วยในเรื่องนี้