วันที่ 11 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มี นายธวัชชัย อินทร อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของร้านอาหารเพลินภิรมย์ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู แจ้งว่าเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีชายไม่ทราบชื่อจำนวน 2 คน อ้างตัวว่าเป็นนักข่าวมารับประทานอาหารที่ร้าน และถ่ายวิดีโอภายในร้าน จากนั้นได้เรียกให้ตนเองไปพบบอกว่า ร้านเปิดเกินเวลาจะนำคลิปนี้ไปทำข่าว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นร้านได้ ปิดเพลงเปิดไฟสว่าง เพื่อจะเคลียร์ลูกค้า โดยให้พนักงานไล่เช็คบิล แต่ยังมีลูกค้าบางรายที่รับประทานอาหารยังไม่หมด ก็นั่งดื่มกินต่อสักพักจึงกลับไป ตนเองจึงได้บอกชายที่อ้างตัวว่าเป็นนักข่าว ไม่อยากให้นำคลิปดังกล่าวไปทำข่าว จากนั้นชายทั้ง 2 คน ได้จ่ายเงินค่าอาหารแล้วก็กลับไป

ต่อมาวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ได้มีชายที่แอบอ้างว่าเป็นนักข่าว เป็นบุคคลที่เคยถ่ายคลิปในร้าน โทรมาหาตนเอง และบอกว่านำคลิปดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแล้ว และกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ฯ จะนำกำลังเข้าตรวจสอบเร็วๆ นี้ และบอกว่าจะดูแลพี่ยังไง ตนเองได้แจ้งชายที่อ้างเป็นนักข่าวว่า ตนปิด-เปิดร้านถูกต้องตามเวลาที่กฎหมายกำหนด และทุกๆ วันจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มาตรวจตราตามปกติ และในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 22.48 น. ชายคนที่อ้างตัวว่าเป็นนักข่าว ก็เข้ามาที่ร้านพร้อมกับชายอีก 4 คน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ตนเองไม่เคยเห็นหน้า  เมื่อถึงเวลาเช็คบิลชายที่อ้างว่าเป็นนักข่าวได้เรียกตนเองไปพบ แล้วบอกว่าขอไม่จ่ายค่าอาหาร และเครื่องดื่มได้ไหม พร้อมทั้งได้ขอเงินสดเพิ่มอีก 3,000 บาท เพื่อเป็นการลบคลิป และจะไม่ส่งคลิปไปให้กับเจ้าหน้าที่ ตนเองจึงได้ปฏิเสธไป กลุ่มชายทั้ง 5 คน ก็เดินทางออกจากร้านไปทั้งหมด และยังไม่จ่ายค่าอาหาร ต่อมาไม่นานได้มีชาย 3คน ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กลับมาที่ร้าน และบอกว่าขอชำระค่าอาหาร ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่าย และไม่ทราบว่าชายที่อ้างตัวว่าเป็นนักข่าว จะกระทำเช่นนี้  

นายธวัชชัย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้นได้ปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือได้แนะนำ ให้ตนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความ และจะดำเนินการตามกฎหมายในลำดับต่อไป ซึ่งเกรงว่าทางร้านจะถูกกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย และวันเกิดเหตุได้มีแขกที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาทานอาหารในร้าน ได้พบเห็นพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว พร้อมลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารในร้านเป็นจำนวนมาก และร้านของตนเองได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทั่วทั้งในร้านและนอกร้าน ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป