ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พล.ต.ต.อริยพล  สินสอน ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.รรท.รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.6 บก.ปทส, พ.ต.ท.ปวารณ์  ดาลจาวัล รอง ผกก.6 บก.ปทส.​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สมภพ ตรงต่อกิจ สว.กก.๖ บก.ปทส., ร.ต.อ.ศรสัญชัย หนูรอด รอง สว. กก.6 บก.ปทส.  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก. 6 บก.ปทส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อยที่ 447, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ, เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่าประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี, เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายด้านสัตว์ สำนักอนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ​ร่วมกันจับกุม น.ส.สูไฮนา อายุ 34 ปี โดยกล่าวหาว่า กระทำผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ความผิดตามมาตรา 17 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบมาตรา 92 และความผิดตามมาตรา 29 ฐานค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบมาตรา 89

โดยมี​ของกลาง ประกอบ (1.) นกกางเขนดง จำนวน 3 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพ.ศ.2546 ลำดับที่ 138  (2.) นกปรอดหน้านวล จำนวน 8 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 577 (3.) นกปรอดสีน้ำตาลตาแดง จำนวน 4 ตัว  ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพ.ศ.2546 ลำดับที่ 572 (4.) นกกางเขนบ้าน จำนวน 2 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 144 (5.) นกเขียวก้านตองเล็ก จำนวน 2 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 262 (6.) นกกระจาบธรรมดา จำนวน 2 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง  พ.ศ.2546 ลำดับที่ 30

ส่วน (7.) นกขมิ้นท้ายทอยดำใหญ่ จำนวน 1 ตัวตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพ.ศ.2546 ลำดับที่ 219 (8.) นกเขียวคราม จำนวน 2 ตัวตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 265 (9.) นกปรอดคอลาย จำนวน 5 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 555 (10.) นกปรอดเหลืองหัวจุก จำนวน 3 ตัวตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 584
(11.) นกปรอดทอง จำนวน 2 ตัวตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 559 (12.) นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า จำนวน 1 ตัว ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ลำดับที่ 261รวมของกลางสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 34 ตัว

​สถานที่จับกุม ริมถนนหลวงสาย 4058 ยี่งอ-รือเสาะ ม.7 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จว.นราธิวาส ​พฤติการณ์ ตามนโยบายของ ผบช.ก. ให้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์และครอบครองสัตว์ป่าโดยมาได้รับอนุญาต บก.ปทส. จึงดำเนินคดีการสืบสวนปราบปรามการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โดยเฉพาะการค้าสัตว์ป่าผ่านสื่อสังคมออนไลน์และการลักลอบนำสัตว์ป่ามาเก็บไว้จำนวนมาก

จากการสืบสวนพบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสข้อความขายนกกางเขนดงซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 138 ในราคาตัวละ 4,000 บาท, นกเขียวคราม(สัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 265) ในราคาตัวละ 900 บาท, นกเขาเขียว(สัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 254) ในราคาตัวละ 350 บาท) และจากการสืบสวนยังพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กขายสัตว์ป่าคุ้มครอง มาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหา ขณะกำลังนำนกนกกางเขนดง จำนวน 2 ตัว ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง ไปขายให้กับลูกค้า และยังได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบนกซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมด 13 ชนิดรวมนกทั้งหมด 32 ตัว ขังไว้กรงดังนี้ 1.นกปรอดสีน้ำตาลตาแดง จำนวน 4 ตัว 2.นกปรอดหน้านวล จำนวน 8 ตัว 3.นกกางเขนดง จำนวน 1 ตัว 4.นกกางเขนบ้าน จำนวน 2 ตัว 5.นกเขียวก้านตองเล็ก จำนวน 2 ตัว 6.นกกระจาบธรรมดา จำนวน 2 ตัว 7.นกขมิ้นหัวดำใหญ่ จำนวน 1 ตัว 8.นกเขียวคราม จำนวน 2 ตัว 9.นกปรอดคอลาย จำนวน 5 ตัว 10.นกปรอดเหลืองหัวจุก จำนวน 3 ตัว 11.ปรอดทอง จำนวน 2 ตัว 12.นกเขียวก้านตองสีฟ้า จำนวน 1 ตัว

จากพฤติการณ์ของนางสาวสูไฮนาฯ มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองและนำมาขายโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ นางสาวสูไฮนาฯ ทราบว่าได้กระทำความผิดดังกล่าวจะต้องถูกจับกุมพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ  

ทั้งนี้ตำรวจเตือนภัย สัตว์ป่าคุ้มครองห้ามผู้ใดล่า มีไว้ครอบครอง และค้าบทกำหนดโทษ พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 10ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ