“เครือข่าย We fair”ยื่นกมธ.สวัดิการสังคมฯ ช่วยผลักดันเงินอุดหนุนเด็กแบบถ้วนหน้า เบี้ยคนพิการจาก 600 เป็น800 บาท เบี้ยคนชราเดือนละ 1 พัน พร้อมอุดหนุนเงินสตรีมีครรภ์ถ้วนหน้า แนะเจียดงบกลาโหมมาช่วย
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม นำโดยนางสุนี ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า และกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน (“We fair”) ยื่นหนังสือต่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร และกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อขอให้ติดตามงบประมาณสวัสดิการเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ สตรี ในร่างพ.ร.บ.งบ68 เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการแก้ปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) คือ
1.กรณีเงินอุดหนุนเด็ก 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท ปรับเป็นระบบถ้วนหน้า 2.เบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท 3.เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600-1,000 บาท ปรับเป็น 1,000 บาท 4.เงินอุดหนุนสตรีมีครรภ์ถ้วนหน้า เดือนที่ 5-9 เดือนละ 3,000 บาท
นางสุนี กล่าวว่า จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯเร่งรัดติดตามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พร้อมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ผลักดันการขับเคลื่อนยกระดับนโยบายสวัสดิการโดยรัฐ ซึ่งจะมีเด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ ที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 17.26 ล้านคน และอยากให้กมธ.งบ68 ช่วยตัดงบส่วนอื่นที่มีจำนวนมาก เช่นงบกระทรวงกลาโหม เพื่อมาช่วยในส่วนนี้ด้วย
ด้านนายณัฐชา กล่าวว่า กมธฯจะติดตามและเร่งผลักดัน ให้มีงบประมาณสวัสดิการสังคมให้เพียงพอต่อความต้องการประชาชนไทย ต่อไป
ขณะที่ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.ฯงบ 68 กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า กมธ.งบ68 ได้พิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณของ พม.ไปแล้ว และทราบว่า พม. ได้รับการจัดสรรงบจำนวนน้อย ดังนั้นกมธ. จะขอติดตามและเร่งผลักดันงบสวัสดิการเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับงบประมาณอุดหนุนโดยถ้วนหน้าต่อไป