ผบ.ตร.แถลงข่าว หลังการประชุมปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน เน้นย้ำ 5 ข้อสั่งการของนายกฯ ไตรมาสสุดท้ายของปี ยืนยันตำรวจทำเต็มมาตลอด แม้ประชาชนยังไม่พอใจ

วันอังคารที่ 9 ก.ค.67 เวลา 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน 

โดยภายหลังจากการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ผบ.ตร. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบข้อซักถามกับสื่อมวลชนว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเร่งด่วน 5 เรื่อง คือเรื่อง การปราบปรามยาเสพติด / การลักลอบนำเข้าสุกรผิดกฏหมาย / การลักลอบสินค้าหนีภาษีเข้ามาภายในประเทศตามแนวชายแดน /การดำเนินธุรกิจสีเทาของต่างชาติ ในพื้นที่ภูเก็ต,ชลบุรี,กทม.,จังหวัดอื่นๆ/ รวมถึงการลักลอบเล่นพนันออนไลน์ 

การประชุมวันนี้เพื่อให้เร่งรัดดำเนินการในไตรมาสสุดท้าย โดยทั้ง5เรื่องอยู่ในนโยบาย 11 ข้อของ ตร.และยืนยันที่ผ่านมาตำรวจได้ทำอยู่แล้ว และมีการจับกุมดำเนินคดีเพิ่มมากขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังไม่พึงพอใจ โดยหลังจากนี้จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ผลการปฎิบัติทั้งหมดจนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือคดีถึงที่สุดไปจนถึงยึดทรัพย์ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องกลับมาคิดและวางเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ส่วนเรื่องยาเสพติดเตรียมใช้ วิธีการเดียวกับ“ร้อยเอ็ดโมเดล”เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาให้ยาเสพติดให้เป็นศูนย์และเป็นพื้นที่สีขาวอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่ายาเสพติดจะไม่กลับมา 

ส่วนเรื่องของการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ย้ำว่ามีผลการจับกุมเยอะมากกว่าปีที่แล้วจะต้องทำให้ประชาชนเห็น เช่นเดียวกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ทาง พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะศูนย์แจ้งเบาะแสเบอร์ของแก๊งคอลเซนเตอร์ให้กับประชาชนเพื่อเป็นการป้องกันการตกเป็นเหยื่อ 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ย้ำว่าการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทั้ง5เรื่อง จะต้องมีการบูรณาการร่วมกันไม่ใช่ตำรวจเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับสั่งการให้มีการบูรณาการกำลังทั้งหลายฝ่าย เช่น ทหาร ตำรวจ ปกครองรวมหลายหน่วยควบคู่ไปกับการทุ่ม งบประมาณลงไปอย่างมหาศาล เป็นสิ่งที่รัฐบาลทุ่มเท แต่อาจจะยังทำได้ไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ แต่หากมีการทำเป็นโมเดลแล้วก็จะขยายพื้นที่ต่อไปยังจังหวัดอื่นโดยจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เห็นผลลัพท์อย่างเป็นรูปธรรม 

ส่วนเรื่องอายุราชการที่เหลืออยู่ตนเองพร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่และส่งต่อให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนช่องโหว่วก็ต้องแก้ไขปัญหาเพราะอาชญากรรมไม่เคยหมดไปจากโลก ต้องมีการป้องกันเตรียมพร้อมทั้งกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือให้มีความพร้อม โดยย้ำว่าตำรวจทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่ถามว่าร้อยเปอร์เซ็นไหมคงไม่ร้อยเปอร์เซ็นได้90%ก็ดีแล้ว เช่น มีผลการจับกุมผู้ค้าผู้เสพทั้งรายย่อยรายใหญ่ เพราะยาเสพติดเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมต่างๆ 

ส่วนกรณีของคดีที่มีการแจ้งความตนไว้ที่สน. เตาปูน และเรื่องชี้แจ้งทรัพย์สินที่ ป.ป.ช.ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมายและยืนยันว่าไม่เคยกดดันพนักงานสอบสวน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน