ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" เดินทางมาถึงรอบตัดเชือก 4 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 9 กรกฎาคม มีลงสนามกัน 1 คู่ "กระทิงดุ" สเปน พบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส แข่งขัน 02.00น. สนามอารีน่า มิวนิค

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม

11/10/21 สเปน แพ้ ฝรั่งเศส 1-2

29/03/17 ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 0-2

05/09/14 ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 1-0

27/03/13 ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 0-1

17/10/12 สเปน เสมอ ฝรั่งเศส 1-1

24/06/12 สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 2-0

04/03/10 ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 0-2

07/02/08 สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 1-0

28/06/06 สเปน แพ้ ฝรั่งเศส 1-3

28/03/01 สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 2-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดรายการนี้

สเปน

05/07/24 เสมอ เยอรมัน 1-1 (ชนะต่อเวลา 2-1)

01/07/24 ชนะ จอร์เจีย 4-1

25/06/24 ชนะ แอลเบเนีย 1-0

21/06/24 ชนะ อิตาลี 1-0

15/06/24 ชนะ โครเอเชีย 3-0

ฝรั่งเศส

06/07/24 เสมอ โปรตุเกส 0-0 (ชนะจุดโทษ)

01/07/24 ชนะ เบลเยียม 1-0

25/06/24 เสมอ โปแลนด์ 1-1

22/06/24 เสมอ ฮอลแลนด์ 0-0

18/06/24 ชนะ ออสเตรีย 1-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

สเปน

05/07/24 เสมอ เยอรมัน 1-1 (ชนะต่อเวลา 2-1) (กลาง) ยูโร 2024

01/07/24 ชนะ จอร์เจีย 4-1 (กลาง) ยูโร 2024

25/06/24 ชนะ แอลเบเนีย 1-0 (กลาง) ยูโร 2024

21/06/24 ชนะ อิตาลี 1-0 (กลาง) ยูโร 2024

15/06/24 ชนะ โครเอเชีย 3-0 (กลาง) ยูโร 2024

ฝรั่งเศส

06/07/24 เสมอ โปรตุเกส 0-0 (ชนะจุดโทษ) (กลาง) ยูโร 2024

01/07/24 ชนะ เบลเยียม 1-0 (กลาง) ยูโร 2024

25/06/24 เสมอ โปแลนด์ 1-1 (กลาง) ยูโร 2024

22/06/24 เสมอ ฮอลแลนด์ 0-0 (กลาง) ยูโร 2024

18/06/24 ชนะ ออสเตรีย 1-0 (กลาง) ยูโร 2024

ความพร้อมก่อนเกม

สเปน

     ผ่าน เยอรมัน เข้ามาแบบสุดระทึกด้วยชัยชนะ 2-1 แต่เจอปัญหาหนักใจ เนื่องจาก ดานี่ การ์บาฆาล, โรบิน เลอ นอร์มานด์ และ อัลบาโร่ โมราต้า จะควงแขนติดโทษแบน เพราะไปดันสะสมใบเหลืองครบโควต้าพร้อมกันในนัดที่แล้ว จึงน่าจะเห็น เฆซุส นาบาส, มิเกล เมริโน่ และ ดานี่ โอลโม่ ลงทำหน้าที่แทนตามลำดับ เช่นเดียวกับอีกหนึ่งกองกลางดาวรุ่งอย่าง เปดรี้ ก็เจ็บหนักจนโบกมือลาทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้ว ที่เหลือก็เตรียมส่งหน้าเดิมลงสนามตามระบบประจำ 4-3-3

     สเปน (4-3-3) : อูไน ซิมอน - เฆซุส นาบาส, โรแม็ง เลอ นอร์กม็องด์, นาโช่, มาร์ก กูกูเรย่า - มิเกล เมริโน่, โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ - ลามีน ยามาล, ดานี่ โอลโม่, นิโก้ วิลเลียมส์

ฝรั่งเศส

    เฉือน โปรตุเกส เข้ามาแบบต้องลุ้นถึงการดวลจุดโทษ แต่ข่าวดีคือการพ้นโทษแบนกลับมาของ อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางตัวหลัก และน่าจะเบียด เอดูอาร์ด คามาวิงก้า หลุดไปนั่งสำรอง ส่วนดาวยิงตัวเก่งอย่าง คิเลียน เอ็มบัปเป้ ที่โดนเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่งของการต่อเวลาพิเศษ ก็น่าจะฟิตพร้อมเป็นตัวจริงวันนี้แน่นอน ประสานงานกับ มาร์คุส ตูราม โดยมี อองตวน กรีซมันน์ ยืนกลางรุก ขณะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ รับทบาทตัวผึ้งงานเหมือนเดิม ตามระบบ 4-3-1-2

     ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : ไมค์ เมญ็อง - ฌูลส์ กุนเด้, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ - อองตวน กรีซมันน์ - มาร์คุส ตูราม, คิเลียน เอ็มบัปเป้

วิเคราะห์

    ผ่านเข้ารอบมาแบบหวุดหวิดด้วยกันทั้ง 2 ทีม แต่วัดจากฟอร์ม และรูปแบบการเล่น สเปน เร้าใจกว่าเยอะ เพราะเล่นเกมรุกตลอด 90 นาที แถมจังหวะเข้าทำสวยงาม ขณะที่ "ตราไก่" ไม่มีนัดไหนชวนประทับใจ นับแต่เกมแรกของทัวร์นาเมนต์ งานนี้รับรองเชียร์ สเปนได้เฮ คาด : สเปน เข่น 2-1