วันที่ 9 ก.ค.67 พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ รับรายงานจาก พ.ต.ท.ธรพรหม ธนอาภากร รอง ผกก สส.สน ราษฏร์บูรณะ รับแจ้งจากสายตรวจว่ามีชาวบ้านช่วยกันล้อมคนร้ายลักรถจักรยานยรต์ ภายในซอยประชาอุทิศ 33 แยกย่อยซอยที่ 7 พบของกลางรถจักรยานยนต์ 4 คัน ผู้ต้องหาอายุพียง 18 ปี นำตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงผู้ร่วมขบวนการณ์ที่โรงพัก
เหตุเกิดขึ้นเมื่อ นาย สมัย อายุ 41 ปี และนาย พงศธร อายุ 27 ปี ได้นำกลุ่มเพื่อนและชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปล้อมจับโจรที่บ้าน ซอย ประชาอุทิศ 33 แยก 7 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เมื่อผู้เสียหายทั้งสองคนเดินทางไปถึงหน้าบ้านดังกล่าวจึงได้พบกับ นาย จิรายุส หรือ นาย ตาม อายุ 18 ปี อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวซึ่งลักษณะบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นบ้านเดี่ยวครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบรถจักรยานยนต์ ที่นายตาม ได้ขโมยมา 4 คัน จอดเรียงรายอยู่หน้าบ้าน เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กฌ 7011 สระบุรี , ยามาฮ่า รุ่น มีโอ GT 125 i สีดำ ทะเบียน 1 กฆ 3010 สมุทรปราการ , ฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำตาล ทะเบียน 1 ขฒ 2574 กรุงเทพมหานคร , ฮอนด้า รุ่น โซนิค ทะเบียน ปจง 901 กรุงเทพมหานคร
เมื่อผู้เสียหายเห็นรถของตนเองจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวจึงได้ทำการเรียกนาย ตาม ออกมาพูดคุยและทำการควบคุมตัวเอาไว้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ มาควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่โรงพักและนำรถของกลางทั้งหมดไปไว้ที่ สน. เพื่อรอการตรวจสอบต่อ
จากการสอบถามนาย พงศธร อายุ 27 ปี เจ้าของรถ จักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX กล่าวว่า ตนจอดรถเอาไว้ตอนเที่ยงคืนของวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 แล้วตนออกไปข้างนอกกลับมาอีกทีประมาณ ตี 4 พอกลับมาดูรถไม่อยู่แล้วรถโดนขโมยไปแล้วตนก็เลย ตนก็เลยไปดูกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณแถวบ้านก็พบว่าเป็นน้องคนนี้ที่เอาไปแล้วก็มีคนโทรศัพท์มาบอกตนว่าเจอรถของตนแล้วจอดอยู่บริเวณตรงนี้ตนก็เข้ามาดูแล้วก็เลียกตัวนาย ตาม ออกมาพูดคุยเจรจากัน ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับพอตนบอกว่ามีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเห็นหน้านาย ตาม อย่างชัดเจน นาย ตาม จึงยอมรับ
ซึ่งตอนนั้นตนก็ว่าจะไม่เอาเรื่อเพราะเห็นว่าภรรยาของ นาย ตาม ท้องแก่ใกล้คลอดก็เลยแค่ว่ากล่าวตักเตือนแล้วก็บอกว่าให้ นาย ตาม เอารถของตนไปซ่อมให้เหมือนเดิม เพราะไม่อยากพรากลูกพรากพ่อกัน ต่อมาก็มีคนมากบอกกับตนอีกว่านาย ตาม ได้ขโมยรถมาอีกแล้ว ตนพร้อมเจ้าของรถอีกคันจึงได้มาดูก็เห็นว่ามีรถมาจอดอีก 2-3 คัน ก็เลยคิดว่ามันไม่ใช่แล้วเขาไม่สำนึกแล้ว ในส่วนนี้ ตนเองก็ ประสานข้อมูลกับฝ่ายสืบสวน สน.ราษฏร์บูรณะ ในข้อมูลถึงผู้ก่อเหตุ จนตนเองมาเจอรถ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าจับกุม คนก่อเหตุดังกล่าว ตนเองก็ฝากขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ราษฏร์บูรณะ ในครั้งนี้
จากการ สอบถาม นาย สมัย อายุ 41 ปี เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงิน กล่าวว่า รถของตนหายในวันที่ 3 ตอนช่วง เวลา 01.20 นาที ตนจอดรถของตนใว้ในโรงรถใต้ตึกซึ่งห่างจากบ้านของคนที่รถฮอนด้า CPX หายไปแค่ 80 เมตรเอง ตนไปเจอ นาย พงศธร ที่ร้านจิปาถะ แล้วก็มีการปรับทุกข์กันเรื่องรถหายเพราะของเขาก็หายเหมือนกันก็เลยช่วยกันไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดก็มาพบว่ารถของตนจอดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังนี้ ตนเจอรถครั้งแรกก็รู้สึกดีใจมากเพราะตนก็ต้องใช้รถขี่ไปทำงานทุกวัน ถ้าไม่มีก็จะใช้ชีวิตลำบากมาก พอมาเจอ นาย ตาม ไม่ยอมพูดอะไรเลยหลบอยู่ในบ้านตลอดเลย
ด้าน นายจิรายุส หรือ นาย ตาม อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่าตนขโมยรถก็เพราะอยากได้ ส่วนที่ต้องขโมยหลายคันก็เพราะว่าพอขโมยมาขี่ไม่กี่วันรถก็เสียก็เลยต้องไปขโมยมาใหม่อีก
ส่วน พ.ต.ท.ธรพรหม ธนอาภากร รอง ผกก สน ราษฏร์บูรณะ กล่าวว่า ทางพ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ได้มีการสั่งการ ให้เข้าตรวจสอบ ซากรถจักรยานยนต์ ที่อยู่ในบ้านพักของผู้ก่อเหตุ ไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยมีการตรวจยึดเพิ่มไปอีก 2 คัน โดยอีก2คันแรก ทางตำรวจได้ติดต่อผู้เสียหายได้แล้ว โดยฝากประชาสัมพันธ์ ผู้เสียหายคนใด รถจักรยานยนต์หาย ในละแวกใกล้เคียง มาตรวจสอบได้ ที่ สน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ขอบคุณ ผู้เสียหายที่ชี้เบาะแส ในการจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย ตาม ไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป