สนองนโยบาย ผบ.ตร.และ ผบช.สตม.พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.กวิณวัชร์ อารยะสุริวงศ์ รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระชัย ถิ่นกมุท สว.ตม.จว.ชลบุรี ร.ต.อ.วิรัช ปัฎธรรมวงศ์ ร.ต.ท.ปราโมทย์ เฟื่องฟุ้ง รอง สว.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ชลบุรี จับกุมตัว Mr.Abdulkhakim  อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย ได้บริเวณร้าน SOTA  RESIDENCE INN เลขที่ 378/475-476 พระตำหนัก ซอย 6  หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด (1 วัน) “ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกให้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ผู้นั้นกระทำผิดฐานปลอมเงินตรา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 ” , “มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราต่างประเทศ สกุล (ยูโร) อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราเป็นของปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244 ประกอบกับกฎหมายอาญามาตรา 247 ” พร้อมของกลาง หนังสือเดินทางประเทศรัสเซีย กระเป๋าคาดอก PRADA สีดำ  1 ใบ ผู้ต้องหากำลังสะพายคาดอกขณะถูกจับกุม เงินสกุลยูโร(ปลอม)จำนวน 86 ฉบับ พบอยู่ในกระเป๋าของกลางลำดับที่ 2 ฉบับละ 500 ยุโร 6 ฉบับ ฉบับละ 50 ยูโร 80 ฉบับ

พฤติการณ์การจับกุม : ตามวันเวลาก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก น.ส.เอ(นามสมมุติ สัญชาติไทย อายุ 38   อยู่ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ชลบุรี ว่ามีคนนำธนบัตรยูโรปลอมมูลค่า 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาแลกที่ร้านซึ่งเป็นตู้แลกเงินที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงแรมพัทยาปาร์ค พระตำหนักซอย 6  จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายจารุวิทย์ ซี่งเป็นลูกจ้างของผู้แจ้งทำงานเป็นพนักงานรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอยู่ ซึ่งเป็นตู้รับแลกเปลี่ยนเงินของบริษัทชีเนท เอ็กซ์เซ้นจ์ จำกัด ซอย 6 ของผู้แจ้ง ว่าได้มีชายไทยชื่อนายหัศศพล  สัญชาติไทย อายุ 41 ปี ชาว จ.ชลบุรี ได้นำเงินสกุลยูโร จำนวน 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาทำการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทกับทางตู้แลกเงินของตน ได้เงินสกุลบาทไปจำนวน 19,012 บาท เมื่อนายจารุวิทย์ ได้ตรวจสอบธนบัตรอีกครั้งโดยใช้ปากกาเคมีสำหรับตรวจสอบธนบุตรพบว่าเป็นธนบัตรสกุลยูโรปลอม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรีบติดตาม 

จนมาพบนายหัศศพลฯ ได้ให้ถ้อยคำว่าตนเองเป็นพนักงานดูแลต้อนรับ(รีเชฟชั่น) ให้กับโรงแรมดังกล่าว โดยอ้างว่าเงินดังกล่าวได้รับมาจากนาย ABDULKHAKIM  อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย เพื่อจ่ายเป็นค่ามัดจำที่พักเนื่องจากคนต่างด้าวเข้าพักมาเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน ต่อมาคนต่างด้าวได้นำธนบัตร 500 สกุลยูโร หมายเลข N11533983474  ดังกล่าว นำมาขอให้ นายหัศศพลฯ เป็นผู้นำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทกับทางตู้แลกเงินดังกล่าว โดยนายหัศศพลฯ ไม่ทราบว่าเงินสกุลยูโรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม

ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงมาตรวจสอบพบคนต่างด้าวยังพักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนของโรงแรมฯห้องเลขที่ 403 ของ โรงแรม SOTA  RESIDENCE INN จึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน พร้อมทั้งขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ได้โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าหนังสือเดินทางของตนอยู่ที่โรงแรมที่พักเก่าเนื่องจากยังไม่ได้จ่ายค่าที่พักให้กับทางโรงแรม

จึงได้เชิญตัวบุคคลทั้งสองมาที่ ตม.จว.ชลบุรี เมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม. ปรากฏว่ามีประวัติเดินทางเข้าออก และยอมรับว่าชื่อนาย ABDULKHAKIM    อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่  9 พฤษภาคม 2567 ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 การอนุญาตสิ้นสุด 1 วัน ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบ แต่คนต่างด้าวแสดงท่าทางมีพิรุธ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้คนต่างด้าวเปิดกระเป๋าสีดำที่คนต่างด้าวนำติดตัวมาโดยคาดติดกับหน้าอกของคนต่างด้าวผู้ถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงขอให้คนต่างด้าวเปิดกระเป๋าคาดอกสีดำ เมื่อคนต่างด้าวเปิดออกมาพบว่ามีเงินสกุลยูโรอีกจำนวนหนึ่ง 

​​​จึงนำออกมาตรวจสอบพบว่ามีธนบัตรฉบับละ 500 ยูโร อีกจำนวน 5 ฉบับ และธนบัตรฉบับละ 50 ยูโร อีกจำนวน 80 ฉบับ รวมเป็นจำนวน เงิน 6,500 ยูโร ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาให้การยอมรับว่าเงินสกุลยูโรจำนวนดังกล่าวทั้งหมด เป็นของปลอม โดยตนได้นำติดตัวมาจากเมืองอีสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีเพื่อนที่ตุรกีให้นำติดตัวนำมาใช้จ่ายในประเทศไทย และตนเองได้นำเงินสกุลดังกล่าวมาใช้เป็นค่ามัดจำที่พักกับทางโรงแรมดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งทำบันทึกจับกุมนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป