น.พ.สธ.กาญจนบุรี ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปาก ปี 67 โดยมีผู้ตรวจราชการ ก.สธ.เขตสุขภาพที่ 5 เป็น ปธ.

 

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ที่ ห้องประชุมโรงแรมรอยัล ริเวอร์แคว รีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์กิตติ กรรภิรมย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 เป็นประธานเปิดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปาก ปี 2567 เขตสุขภาพที่ 5 วันที่ 8-9 กรกฎาคม 2567 
   

พร้อมให้เกียรติมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้อุทิศตน ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน จนครบเกษียณอายุราชการ ควรแก่การยกย่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม 
 

   โดยมี น.พ.ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต้อนรับ ทพญ.มนิธี  ต่อเศวตพงศ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 5 สาขาสุขภาพช่องปาก กล่าวรายงานการประชุม พร้อมด้วย ทันตบุคลากรจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลที่เข้าร่วมพัฒนา โรงพยาบาลทันตกรรม และศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี เข้าร่วมการประชุม
   

 เนื่องจากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติครั้งที่ 9 ปี 2566 โดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย พบว่า เด็กก่อนวัยเรียนมีฟันน้ำนมปราศจากฟันผุเพิ่มขึ้น เด็กวัยเรียนมีฟันแท้ปราศจากฟันผุเพิ่มขึ้น แต่ยังพบคราบจุลินทรีย์และปัญหาเหงือกอักเสบ เช่นเดียวกับผลสำรวจครั้งที่ผ่านมา ในขณะที่ภาพรวมการเข้าถึงบริการทันตกรรมในทุกกลุ่มวัยลดลง ในกลุ่มวัยทำงานอายุ 35 - 44 ปี และผู้สูงอายุ 60 - 74 ปี ได้รับบริการทันตกรรมในรอบปีที่ผ่านมา เพียงร้อยละ 33.4 และ 30.6 ตามลำดับ ซึ่งเขตสุขภาพที่ 5 มีผู้สูงอายุเพียง ร้อยละ 23.9 เท่านั้น ที่ได้รับบริการทันตกรรมสุขภาพช่องปากคนไทยจึงยังคงเป็นปัญหา สาธารณสุขที่สำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข นอกจากนี้เขตสุขภาพที่ 5 ยังมีปัญหาขาดแคลนผู้ช่วยทันตกรรมและยูนิตทันตกรรมอันเป็นปัจจัยหลักในการเข้าถึงบริการทันตกรรมในทุกกลุ่มวัย และยังมีโรงพยาบาลอีกจำนวนหนึ่งยังไม่บรรลุตามอัตราส่วน 1 ทันตแพทย์ 1 ผู้ช่วย 1 ยูนิตทันตกรรม
 

   การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปาก ในปีงบประมาณ 2567 เขตสุขภาพที่ 5 มีเป้าหมายให้ประชากรมีสุขภาพช่องปากดี มีฟันใช้งานได้เหมาะสมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยได้ดำเนินการใส่ฟันเทียมและฝังรากฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุตามโครงการฟันเทียม และรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติฯ และพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อให้เพิ่มการเข้าถึงบริการ ทันตกรรมมากขึ้นในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม และเพื่อพัฒนาศักยภาพหัวหน้าเครือข่ายที่จะเป็นผู้นำทางทันตกรรมในอนาคตให้มีความพร้อม เรื่องการจัดเก็บค่าบริการ การเตรียมความพร้อมรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ อีกทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระบบบริการสุขภาพช่องปาก เพื่อพัฒนาโรงพยาบาลทันตกรรมจากผู้ที่มีประสบการณ์จากเขตสุขภาพอื่น ๆ รวมถึงการเชิดชู เกียรติ ทันตบุคลากรที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2567 ผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความความ มุ่งมั่น เสียสละ ตลอดระยะเวลาการรับราชการ