พอเถอะหมดเวลาของเราแล้ว! ‘เสรี’ ขอทำหน้าที่หักแนวร่วมช่วงโค้งสุดท้าย5ปี ค้านตั้ง ‘กมธ.สอบเลือกสว.ใหม่’ ชี้เป็นการ ‘จุ้นองค์กรอิสระ-คนละอำนาจหน้าที่’ เตือนไม่อยากให้เพื่อสมาชิกพ้นตำแหน่งไปแล้วมี ’คดีอาญา’ ติดตัว แนะปล่อย ‘กกต.’ ดำเนินการไปอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2567 เมื่อเวลา15.20น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติเรื่องขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกสมาชิกสมาชิกวุฒิสภา ตามที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เป็นผู้เสนอ โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์สว. อภิปรายว่า ในช่วงสุดท้ายของ5ปีในการเป็นการสว.ของตน อาจมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเพื่อนสมาชิกหลายคนจนไม่คบกัน ไม่มองหน้ากัน ไม่พูดกัน ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ตนจึงคิดเยอะ แต่หากตนไม่เสนอความเห็นครั้งนี้ ก็ถือว่าตนทำหน้าที่ใช้ไม่ได้ ไม่รับผิดชอบ มองเห็นอีกมุมแล้วไม่พูด ตนละอายใจ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นในการเลือกสว.ครั้งนี้ เป็นพยานหลักฐานสำคัญให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาวินิจฉัยตนเสนอความเห็นไป แต่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่กกต. เนื่องจากเป็นคนละอำนาจหน้าที่ สว.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ตามมาตรา109ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ให้สว.ต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่ามีสว.ชุดใหม่เข้ามาก็จริง แต่ในช่วงที่ยังไม่มีสว.ใหม่เข้ามา เขาให้สว.ชุดเก่าอยู่รอ เพื่อพิจารณาคนที่ไปดำรงตำแหน่งต่างๆที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายกำหนดไว้ มีใครที่ต้องดำเนินการ หรือมีกฎหมายที่ผ่านสส. ส่งมาที่สว.ดำเนินการ รวมถึงการดำเนินงานในกรรมาธิการฯในแบบเท่าที่จำเป็น ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงองค์กรอิสระ
“ในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ผมรับผิดชอบ ทำไมผมไม่อยากทำเรื่องนี้คนในกรรมาธิการผมก็บอกว่าทำไมไม่ทำ เห็นคณะอื่นทำมากมาย เราตกขบวนได้อย่างไร แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมชี้แจงไปว่า ในขณะที่ผมเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ผมต้องระมัดระวังไม่ให้กรรมาธิการฯ หรือสว.ไปทำผิดกฎหมาย เพราะบางเรื่องมีโทษทางอาญา ผมไม่อยากให้ท่านพ้นจากสว.ไปแล้ว ต้องมีคดีอาญาติดตัว ขณะเดียวกันตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกสว. มาตรา58ระบุไว้ ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใดๆเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัคร สมาชิกรัฐสภา ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ” นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวต่อว่า ตนขอถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นปัญหาของเราหรือไม่ การที่บอกว่าจะตั้งกรรมาธิการฯขึ้นมาเพื่อมาตรวจสอบนั้นทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ส่วนที่หลายคนบอกว่า ให้รับรองไปก่อนค่อยสอยทีหลังตามรัฐธรรมนูญมาตรา 226 ระบุว่า ภายหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ผู้สมัครรับเลือกตั้งมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ากระทำการทุจริต ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิ์ของผู้นั้น ดังนั้น การที่สมาชิกที่นำหลักฐานมาแสดง เป็นเรื่องดี แต่ต้องส่งให้ กกต.
“จะบอกว่า ทำไมกกต.ไม่ทำ กลายเป็นว่าทำตัวเป็น กกต. เองไปแล้ว ยืนยันว่าที่ผมพูดไม่ใช่ขัดแย้งกับสมาชิก แต่เป็นหน้าที่สำคัญ ถึงบอกให้ กกต. เร่งตรวจสอบ และเร่งรับรอง ต้องใจกว้างยอมรับว่า หมดเวลาของสว.ชุดนี้แล้ว ส่วนสว.ชุดใหม่จะมาด้วยคุณสมบัติที่อะไร ถ้าไม่ขัดตามรัฐธรรมนูญ จะขายกล้วยทอด หรือขับรถ ก็ต้องยินดีให้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ยืนยันว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพราะเป็นการไปก้าวก่ายอำนาจหน้าที่องค์กรอิสระ” นายเสรี กล่าว