สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการเลือกตั้งสมัชชาแห่งชาติ หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รอบ 2 ของประเทศฝรั่งเศสอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ปรากฏว่า ผิดความคาดหมายทั้งจากการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์และผลการสำรวจความคิดเห็น หรือการจัดทำโพลล์จากประชาชนที่มีขึ้นก่อนหน้า เมื่อกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย ชนะเลือกตั้งเหนือกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายขวา ที่ชนะในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า “นิวป็อปปูลาร์ฟรอนต์” หรือเอ็นเอฟพี ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย ได้ ส.ส. จำนวน 289 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 577 ที่นั่ง ตามมาด้วยกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองสายกลางที่นำโดยประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ ส.ส. ราว 160 – 169 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายขวา หรืออาร์เอ็น ภายใต้การนำของนางมารีน เลอ แปน ได้ ส.ส. 135 – 143 ที่นั่ง ตกไปอยู่อันดับ 3 จากเดิมในการเลือกตั้งรอบแรกได้อันดับ 1 และตามการคาดการณ์ ตลอดจนถึงการจัดทำโพลล์ของสำนักต่างๆ ก็ชี้ว่า กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายขวา จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรอบ 2 นี้อีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายขวา จะชนะเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ได้รับเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้จะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีแนวโน้มว่า อาจจะเผชิญหน้ากับภาวะทางตัน หรือเดดล็อก ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมีขึ้น